เรื่อง ขอความเป็นธรรม
กราบเรียน ฯพณฯ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน
ตามคำสั่งกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานที่ 127/2553 เรื่อง ให้ข้าราชการรักษาการในตำแหน่ง ลงวันที่ 12 มีนาคม 2553 นั้น
ข้าพเจ้า นายศุภชัย ตรีศักดิ์ชาติ ตำแหน่ง นักวิชาการแรงงานชำนาญการ สำนักงานสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานจังหวัดปทุมธานี ใคร่ขอร้องทุกข์มายัง ฯพณฯ รัฐมนตรี เพื่อโปรดพิจารณาให้ความเป็นธรรมโดยมีเหตุผลประกอบการพิจารณาดังต่อไปนี้
1. จากรายชื่อตามคำสั่งให้ข้าราชการรักษาการในตำแหน่ง และ ประกาศรายชื่อให้ข้าราชการผู้ได้รับการคัดเลือกให้เข้ารับการประเมินผลงาน จำนวน 24 ราย จากข้าราชการที่มีรายชื่อสมัครเข้ารับการประเมิน จำนวน 197 รายแล้ว เห็นได้อย่างชัดเจนว่า ผู้ที่ได้รับการคัดเลือกส่วนใหญ่ เมื่อเทียบลำดับอาวุโสซึ่งกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน ได้ทำบัญชีลำดับอาวุโสไว้โดยนัยเพื่อความเป็นธรรมสำหรับข้าราชการทุกคนที่มีโอกาสจะได้รับการพิจารณาแต่งตั้งในตำแหน่งที่สูงขึ้นตามลำดับอาวุโส มีอาวุโสน้อยกว่าข้าพเจ้าแทบทั้งหมด โดยเฉพาะกรณีของผู้ที่ได้รับการแต่งตั้งในลำดับที่ 13 พันจ่าเอกสมพงษ์ คล้อยแคล้ว ซึ่งปัจจุบัน ดำรงตำแหน่งนักวิชาการแรงงานชำนาญการ สำนักงานสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานจังหวัดปทุมธานี มีลำดับอาวุโสน้อยที่สุดในบรรดาข้าราชการสำนักงานสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานจังหวัดปทุมธานีที่สมัครเข้ารับการคัดเลือกและน่าจะมีลำดับอาวุโสในลำดับท้าย ๆ บัญชี ของบรรดาผู้สมัครเข้ารับการคัดเลือกทั่วประเทศ ในขณะที่ข้าพเจ้ามีลำดับอาวุโสสูงสุดของข้าราชการสำนักงานสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานจังหวัดปทุมธานีและมีลำดับอาวุโสในลำดับที่ 14 ของข้าราชการที่มีสิทธิสมัครเข้ารับการคัดเลือกทั่วประเทศ สำหรับ ผู้ที่ได้รับการแต่งตั้งรายอื่น หากจะนำข้อมูลด้านความอาวุโสมาพิจารณาเปรียบเทียบ ก็จะเห็นได้ว่ามีลักษณะที่ไม่แตกต่างจากกรณีที่ข้าพเจ้าชี้ให้เห็นดังกล่าวข้างต้น
2. ในด้านความเหมาะสม ตำแหน่งนักวิชาการแรงงาน ชำนาญการพิเศษ กลุ่มงานส่งเสริมแรงงานสัมพันธ์ สำนักแรงงานสัมพันธ์ ที่กรมฯ พิจารณาคัดเลือก พันจ่าเอกสมพงษ์ คล้อยแคล้ว ไปรักษาการในตำแหน่งดังกล่าว มีประเด็นให้คิดและเปรียบเทียบกับผู้สมัครรายอื่นหลายคนที่มีความอาวุโสเหนือกว่า มีความรู้ ความเข้าใจ มีความลึกซึ้งในเนื้องานที่มาจากการสั่งสมประสบการณ์ทั้งจากการศึกษา อบรม การแลกเปลี่ยนความรู้ ความเข้าใจ ทั้งทางตรงและทางอ้อม จากบุคคล คณะบุคคลในวงการแรงงานในทุกกลุ่มและทุกภาคส่วน รวมถึงการได้ลงมือปฏิบัติงาน ซึ่งข้าพเจ้าเห็นว่า ในกลุ่มผู้สมัครเหล่านั้น ข้าพเจ้า เป็นผู้หนึ่งที่มีคุณสมบัติดังกล่าว กล่าวคือ มีความรู้ ความเข้าใจ และมีประสบการณ์มากพอที่จะสามารถนำมาปรับใช้ให้เกิดประโยชน์ต่อทางราชการได้เป็นอย่างดี ทั้งนี้เนื่องจากตลอดระยะเวลาของการรับราชการในกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานมากว่า 26 ปี มากกว่าหนึ่งในสามของชีวิตการรับราชการ ข้าพเจ้าได้ศึกษา เรียนรู้และการลงมือปฏิบัติงานด้านแรงงานสัมพันธ์ ทั้งในภาคเอกชน และภาครัฐวิสาหกิจ ได้นำความรู้และประสบการณ์ด้านแรงงานสัมพันธ์ไปบรรยาย ถ่ายทอด ส่งเสริมความรู้ความเข้าใจ ให้แก่ นายจ้าง ลูกจ้าง รวมถึงผู้ที่เกี่ยวข้อง ทั้งภาคเอกชนและรัฐวิสาหกิจมาโดยตลอด และ ปัจจุบันขณะที่ปฏิบัติราชการ ณ สำนักงานสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานจังหวัดปทุมธานี ยังคงได้รับผิดชอบภารกิจหลักด้านแรงงานสัมพันธ์ของจังหวัดปทุมธานี
3. ในด้านความรู้ ความสามารถ ข้าพเจ้าจบปริญญาตรี ศิลปศาสตร์บัณฑิต สาขา รัฐศาสตร์ วิชาเอกการบริหารรัฐกิจ จากมหาวิทยาลัยรามคำแหง ปัจจุบัน กำลังศึกษาในระดับปริญญาโท ในหลักสูตรศิลปศาสตร์มหาบัณฑิต สาขา การบริหารรัฐกิจและกฎหมาย มหาวิทยาลัยรามคำแหง การศึกษาเน้นสองด้านหลัก ได้แก่ ศาสตร์ทางด้านบริหารหน่วยงานรัฐที่เจ้าหน้าที่ของรัฐพึงต้องเน้นที่ประโยชน์สาธารณะและการให้บริการต่อสาธารณะ และ ศึกษาด้านกฎหมายมหาชนที่หน่วยงานรัฐและเจ้าหน้าที่ของรัฐพึงต้องนำมาปรับใช้เพื่อประโยชน์สูงสุดของประชาชนและประเทศชาติ ทางด้านความสามารถ จากประสบการณ์การทำงาน จากการผ่านการศึกษาอบรมในหลักสูตรต่าง ๆ ในภารกิจหลักของกรมฯ ที่กรมฯ จัดฝึกอบรม รวมถึงหลักสูตรอื่น ๆ ที่หน่วยงานภายนอกจัดอบรม อาทิ หลักสูตรการเจรจาต่อรองด้วยหลักสุจริตใจจัดโดย กรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานร่วมกับกระทรวงแรงงานแห่งประเทศนิวซีแลนด์ หลักสูตรการเป็นวิทยากร จัดโดยสถาบันบันฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ หลักสูตรภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสาร จัดโดยมหาวิทยาลัยมหิดล เป็นต้น และ จากผลการปฏิบัติงานที่ผ่านมา มีผลงานที่ผ่านเกณฑ์การประเมินในระดับดีถึงดีมากและเป็นที่ยอมรับจากผู้บังคับบัญชามาในระดับต่าง ๆ เพื่อนร่วมงาน และผู้ใต้บังคับบัญชามาโดยตลอด นอกจากนั้น ด้านความรู้ความสามารถพิเศษที่ปัจจุบันถือเป็นความจำเป็นได้แก่ ความรู้และความสามารถด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ (Information Technology) ข้าพเจ้าผ่านการศึกษา อบรม และมีความสามารถนำมาใช้งานเพื่อประโยชน์ของทางราชการได้จริง
4. ด้านการครองตน ครองคน และการครองงาน ตลอดระยะเวลา 26 ปีเศษ ที่รับราชการ ข้าพเจ้าเชื่อมั่นว่า ข้าพเจ้ามีความมุ่งมั่น มุมานะ ตั้งใจและทุ่มเทการทำงานให้กับหน่วยงานที่สังกัดโดยไม่เคยร้องขอสิทธิพิเศษใด ๆ ทั้งในแง่ของการพิจารณาเลื่อนขั้น เลื่อนตำแหน่ง ข้าพเจ้าเชื่อมั่นในระบบคุณธรรมของทางราชการมาโดยตลอด และตั้งมั่นอยู่เสมอในอันที่จะไม่เป็นต้นเหตุแห่งการนำมาซึ่งของระบบอุปถัมภ์ มีความสำนึกและรับผิดชอบต่อตนเอง ผู้อื่นและงานที่ได้มอบหมาย อย่างเต็มความสามารถ กรณีดังกล่าว สามารถตรวจสอบได้จากผู้ที่เป็นเพื่อร่วมงาน ผู้บังคับบัญชาทุกระดับ ในทุกหน่วยงานที่ข้าพเจ้าเคยสังกัด
5. ข้อมูลข้อเท็จจริงประกอบการพิจารณาที่สำคัญ
5.1 อ้างถึงคำสั่งกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน ที่ 665/2551 เรื่องให้ข้าราชการรักษาการในตำแหน่ง ลงวันที่ 28 พฤศจิกายน 2551 คำสั่งดังกล่าว เห็นได้ชัดเจนว่า ข้าราชการผู้ได้รับการแต่งตั้ง เกือบทั้งหมดล้วนแต่เป็นผู้ที่มีลำดับอาวุโสสูงไล่เลี่ยกัน ซึ่งในคราวนั้น ก่อนที่คำสั่งที่อ้างถึงจะได้มีการลงนามโดยอธิบดี ข้าพเจ้า ซึ่งมีลำดับอาวุโสเท่ากันหรือใกล้เคียงกับกลุ่มข้าราชการเหล่านั้น ได้รับทราบจากผู้บังคับบัญชาระดับสูงที่ร่วมเป็นกรรมการพิจารณาแต่งตั้งว่า กรรมการได้พิจารณาให้ข้าพเจ้าลงในตำแหน่ง นักวิชาการแรงงาน ชำนาญการพิเศษ กลุ่มงานรัฐวิสาหกิจสัมพันธ์ สำนักแรงงานสัมพันธ์ เนื่องจากเห็นว่าข้าพเจ้ามีอาวุโส มีความรู้ ความสามารถและประสบการณ์ในงานด้านแรงงานรัฐวิสาหกิจ จึงมีความเหมาะสม แต่เมื่อคำสั่งออกมาปรากฏว่าไม่มีชื่อข้าพเจ้า แต่เปลี่ยนเป็น ว่าที่ ร.ต.อนุชา จันทรเกสร จากกองนิติการ ซึ่งจะเห็นได้อย่างชัดเจนว่าเป็นผู้ที่มีลำดับอาวุโสน้อยที่สุดในคำสั่งนั้น ทั้งนี้ ผู้บังคับบัญชาคนเดียวกันบอกข้าพเจ้าว่า อธิบดีขอเปลี่ยนตัวพร้อมกับสัญญาว่าจะพิจารณาแต่งตั้งข้าพเจ้าเป็นลำดับแรกที่มีตำแหน่งว่าง
5.2 สำหรับคำสั่งฉบับปัจจุบัน ข้าพเจ้าได้รับการบอกเล่าจากผู้บังคับบัญชาระดับสูงว่า การพิจารณาแต่งตั้งข้าราชการของกรมฯ คราวนี้ มีข้าราชการวิ่งเต้นขอรับความช่วยเหลือผ่านข้าราชการระดับสูงให้กรมฯ พิจารณาแต่งตั้ง และข้าราชการคนดังกล่าวเป็นข้าราชการที่มีอาวุโสน้อยที่สุดในบรรดาข้าราชการของสำนักงานสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานจังหวัดปทุมธานีที่สมัครเข้ารับการคัดเลือก ส่งผลให้อธิบดีต้องตัดสินใจเลือกข้าราชการคนดังกล่าว
อนึ่ง การแสดงเจตนาในการร้องทุกข์ครั้งนี้ เชื่อว่าจะยังประโยชน์ต่อระบบราชการ และ ข้าราชการ โดยรวม ที่มีความมุ่งมั่น ตั้งใจ ตลอดจนทุ่มเทความรู้ความสามารถปฏิบัติหน้าที่ ได้รับการปฏิบัติด้วยความเสมอภาค เป็นธรรม ทั้งด้านการพิจารณาความดี คมชอบ การพิจารณาเลื่อนขั้น เลื่อนตำแหน่ง ผ่านระบบคุณธรรมอย่างแท้จริง อันเป็นการส่งเสริมให้เกิดขวัญ กำลังใจ ของข้าราชการทั้งปวง ในการที่จะปฏิบัติงานได้อย่างมีประสิทธิภาพและประสิทธิผล อย่างเต็มความภาคภูมิ สมกับการเป็นข้าราชการในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสามารถสนองตอบต่อภารกิจของกรมฯ ได้อย่างแท้จริ
จากข้อเท็จจริงข้างต้น ข้าพเจ้าจึงขอร้องทุกข์ขอความเป็นธรรมมายังฯพณฯ รัฐมนตรีโปรดพิจารณาให้ความเป็นธรรมโดยให้มีการทบทวนคำสั่งดังกล่าวด้ว
จึงเรียนมาเพื่อโปรดพิจารณา
ขอแสดงความนับถือ
ศุภชัย ตรีศักดิ์ชาติ
นักวิชาการแรงงานชำนาญการ
23/3/53
