เรียน คุณวรชัย มานะสมบัติ
สำนักงานประกันสังคม ขอเรียนว่า เงินกรณีชราภาพ (เริ่มจัดเก็บเงินสมทบตั้งแต่วันที่ 31 ธันวาคม 2541) ตามเงื่อนไข และมีวิธีการคำนวณ ดังนี้
1. ผู้ประกันตนจ่ายเงินสมทบในส่วนของกรณีชราภาพมาแล้วไม่ครบ 180 เดือน จะได้รับ เงินบำเหน็จชราภาพ ผู้ประกันตนจ่ายเงินสมทบในส่วนของกรณีชราภาพมาแล้วตั้งแต่ 180 เดือน ขึ้นไป จะได้รับเงินบำนาญชราภาพ
2. มีอายุครบ 55 ปีบริบูรณ์ หรือเป็นผู้ทุพพลภาพ หรือถึงแก่ความตาย
3. และความเป็นผู้ประกันตนสิ้นสุดลง
กรณีชราภาพเป็นอีกสิทธิประโยชน์หนึ่งที่ประกันสังคมให้ความคุ้มครองคนทำงานเมื่อเกษียณอายุ คือเมื่อสมาชิกซึ่งเป็นผู้ประกันตนมีอายุถึงเกณฑ์เกษียณตามหลักสากลที่กำหนด คือ อายุ 55 ปีบริบูรณ์ ก็จะได้รับเงินจำนวนหนึ่งไว้ใช้จ่ายในยามแก่เฒ่าหรือเมื่อพ้นจากวัยทำงานแล้ว (ซึ่งเป็นช่วงที่ผู้ประกันตนส่วนใหญ่ไม่มีรายได้) โดยอาจอยู่ในรูปของบำเหน็จที่เป็นเงินก้อนหรือบำนาญที่จ่ายให้ทุกเดือนไปจนตลอดชีวิต ซึ่งเงินจำนวนนี้มาจากการที่รัฐให้สมาชิกได้ออมในช่วงที่ยังทำงานอยู่ กรณีชราภาพเป็นการออมระยะยาวยิ่งออมมากจำนวนเงินที่ได้รับหลังเกษียณอายุก็จะมากขึ้นตามไปด้วย ถ้าสำนักงานประกันสังคมยอมให้สมาชิกถอนเงินจำนวนนี้ได้ก่อนอายุ 55 ปี วัตถุประสงค์ที่ตั้งไว้ว่าจะให้เป็นเงินออมเอาไว้ใช้จ่ายเมื่อผู้ประกันตนพ้นวัยทำงานหรือแก่เฒ่าก็ไม่เป็นไปตามเจตนารมย์ของการจ่ายประโยชน์ทดแทนดังกล่าว
จึงเรียนมาเพื่อทราบ
ศูนย์สารนิเทศ สำนักงานประกันสังคม
โทร 0-2956-2535
2 สิงหาคม 2553