กรมการจัดหางาน ได้รับเรื่องร้องเรียนของท่านแล้ว และขอชี้แจงดังนี้
สืบเนื่องจากกรอบอัตรากำลังพนักงานราชการของส่วนราชการเริ่มจ้างมาตั้งแต่กรอบรอบแรก (ปีงบประมาณ ๒๕๔๘ – ๒๕๕๑) จะมีการอนุมัติกรอบอัตรากำลัง ๔ ปี ในขณะนั้นกรมการจัดหางานได้รับกรอบอัตรากำลังรวม ๖๔๘ คน ต่อมาในรอบสอง (ปีงบประมาณ ๒๕๕๒ – ๒๕๕๕) กรมฯ ยังได้รับกรอบอัตรากำลัง ๖๔๘ คน เท่าเดิม และได้รับงบประมาณจ้างต่อเนื่องมาทุกปีจนถึงปัจจุบันก็ยังคงจ้างอยู่ในกรอบที่ได้รับ ๖๔๘ คน จนกระทั่งเมื่อเดือนกรกฎาคม ๒๕๕๓ สำนักงาน ก.พ. ได้มีหนังสือแจ้งส่วนราชการต่าง ๆ ว่า คณะกรรมการบริหารพนักงานราชการ (คพร.) สำนักงาน ก.พ. ได้มีมติให้ส่วนราชการปรับลดอัตรากำลังพนักงานราชการให้เหมาะสมกับภารกิจและไม่ให้ซ้ำซ้อนกับลูกจ้างประจำบางตำแหน่งที่มีอยู่ โดยให้ส่วนราชการประเมินผลการปฏิบัติงานของพนักงานราชการอย่างเข้มข้นจริงจัง ซึ่งต้องปรับลดลงทั้งสิ้น จำนวน ๑,๒๙๕ คน ในส่วนนี้กรมการจัดหางานได้รับแจ้งว่าต้องปรับลด จำนวน ๗๔ คน แต่เมื่อหักพนักงานราชการที่ลาออกแล้วคงเหลือพนักงานราชการที่ต้องปรับลดจำนวน ๔๙ คน แยกเป็นส่วนกลาง ๒๙ คน ส่วนภูมิภาค ๒๐ คน (๒๐ จังหวัด) ซึ่งได้รับความเห็นชอบตามมติที่ประชุมคณะกรรมการบริหารพนักงานราชการของ กรมการจัดหางาน ทั้งนี้ กรมฯ ได้รับผลการประเมินผลการปฏิบัติงานของพนักงานราชการของหน่วยงานในสังกัดแล้ว อยู่ระหว่างแจ้งผลการดำเนินการให้หน่วยงานในสังกัดทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป อนึ่ง กองการเจ้าหน้าที่ได้พยายามหาแนวทางในการดำเนินการช่วยเหลือพนักงานราชการ กล่าวคือ
๑. มีหนังสือจากกรมฯ ถึง สำนักงาน ก.พ. ขอคงการจ้างพนักงานราชการไว้โดยไม่ต้องปรับลดด้วยเหตุผลความจำเป็นหลายประการที่อาจส่งผลกระทบต่อภารกิจของกรม โดยเฉพาะอย่างยิ่งต่อความเดือดร้อนของพนักงานราชการ แต่ไม่ได้รับแจ้งผลกลับมา กรมฯ ได้มีหนังสือติดตามผลและขอความอนุเคราะห์ ไปยังสำนักงาน ก.พ. อีก อยู่ระหว่างรอผล
๒. หากพนักงานราชการต้องถูกปรับลดดังกล่าว ทราบว่ามีบางหน่วยงานของกรมฯ มีโครงการใหม่ที่จะจ้างลูกจ้างชั่วคราวในปีงบประมาณ ๒๕๕๔ อาทิ สำนักงานกองทุนเพื่อการส่งคนต่างด้าวกลับออกไปนอกราชอาณาจักร กองตรวจและคุ้มครองคนหางาน ฯลฯ จึงขอให้พนักงานที่ได้รับผลกระทบดังกล่าวขึ้นทะเบียนว่างงานไว้เพื่อจะได้เรียกมาสมัครรับคัดเลือก ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับหัวหน้าหน่วยงานพิจารณาตามความเหมาะสมต่อไป