เมื่อวันที่ 20 ตุลาคม 2553 เป็นวันที่ดิฉัน ได้ไปทำงานปกติ โรงงานที่ดิฉันทำงานคือโรงงาน ไฮเออร์ ตั้งอยู่เขตนิคมอุตสาหกรรมกบินทร์บุรี ดิฉันจะเริ่มเล่าเรื่องเมื่อเวลา 11.05 น.ได้ยินเสียงคนพูดว่าให้ไปพักทานข้าว เวลา 11.00น. ทั้ง ๆ ที่ทางบรษัทได้กำหนดให้เวลาพักปกติ เวลา 11.40 น. มีคนบอกว่าไลย์การผลิตต้นไลย์เสียทำงานไม่ได้แต่จุดทีดิฉันได้ทำงานนั้นเป็นปลายไลย์ไม่มีไลย์ว่างเลยพนักงานทุกคนที่ทำงานปลายไลย์ไม่มีใครรู้เลยว่าต้นไลย์การผลิดเสียเพราะปลายไลย์แทบจะไม่มีเวลาพักเลยเพราะไลย์ที่ทำอยู่ไม่มีว่างเลยทำไปถึงเวลา 11.40 น.ก็ยังได้ ทุกคนลงความเห็นว่าจะไม่ไปพักตอนเวลา 11.00 น. เพราะไม่มีใครมาบอกเลยว่าให้พักเวลา 11.00 น. เพราะปกติหัวหน้างานต้องเป็นคนมาแจ้งกับพนักงานว่าจะพักเวลาไหน แต่นี้ไม่มีการแจ้งเลย และตอนที่รู้เรื่องว่าให้ไปพักเวลา 11.00 ได้เลยเวลามาแล้วประมาณ 5 นาที แล้วก็เลยตัดสินใจกันจะทำงานต่อแต่มีหัวหน้าคนหนึ่งได้เดินมาปิดไลย์แล้วบอกให้ไปพัก ตอนที่หัวหน้าคนนั้นมาปิดไลย์ก็ได้เลยเวลามาประมาณ 10 นาที่แล้ว ทำไห้ไม่รู้แน่ชัดว่าจะทำอย่างไร เพราะดิฉันเป็นซัพคอนแทรกที่มีผู้รับเหมารับเข้ามาทำงาน จึงไม่รู้ว่าจะทำอย่างไร จะให้ไปพักไลย์การผลิตก็ยังไม่หยุดจะให้เดินออกไปเลยก็กลัวว่าจะละทิ้งหน้าที่ของตัวเอง หัวหน้าคนที่ปิดไลย์ได้โทรไปบอกกับหัวหน้าแผนกไลย์ พอหัวหน้าแผนกไลย์มาก็มานั่งฟังกันว่าทำไมไม่ไปพักตอน 11.00 น. ก็เลยพูดไปว่าได้ล่วงเลยเวลานั้นมาแล้วทำไมเพิ่งจะมาบอกว่าให้พักตอน 11.00 ทำไมไม่แจ้งก่อนจะถึงเวลา 11.00 หัวหน้าแผนกไลย์ได้พูดว่าขอร้องได้ไหมให้ไปพักเวลา 11.00 จะให้ไปได้ยังไงเมื่อ ณ เวลานั้นได้เลยเวลามานานมากแล้วกว่าที่หัวหน้าแผนกไลย์จะมาถึงก็ประมาณ 11.20แล้ว พนักงานคนหนึ่งจึงบอกว่าแล้วจะให้ทำยังไงหัวหน้าแผนกไลย์จึงบอกให้พลัดกันไปพักจะได้ไหม ทุกคนจึงบอกว่าจะให้ไปได้ยังไงทุกคนก็มีหน้าที่คนละอย่างกัน ถ้าผลัดกันคนหนึ่งจะทำกี่หน้าที่ จึงสรุปว่าจะไม่พัดกันไปทานข้าวหัวหน้าแผนกไลย์จะบอกว่าถ้างั้นก็ไปพักตามปกติเดี่ยวจะหาคนมาเสริมตรงที่ขาดเอง ดิฉันจึงไปพักทานข้าวตามปกติ คือเวลา 12.20 น. แต่พอตอนบ่ายมา มีซัพคนแทรกคนหนึ่งถูกเรียกตัวเข้าพบกับเสมียนซัพคอนแทรกนั้น เสมียนซัพได้ให้ซัพคอนแทรกคนนั้นเขียนไบลาออก บอกว่าละทิ้งหน้าที่ พอวันต่อมา ดิฉันเป็นคนที่ถูกเรียกตัวเข้าไปพบกับเสมียนซัพของดิฉันเอง เสมียนซัพของดิฉันบอกว่าเรื่องเป็นยังไงเล่าให้ฟังหน่อยได้หรือป่าว ดิฉันก็เล่าให้ฟังตามที่เล่ามาข้างต้น เสมียนซัพของดิฉันจึงเล่าให้ฟังว่า รู้หรือป่าวว่าทำไมถึงเรียกตัวมาพบพบ ดิฉับบอกว่าไม่รู้ เสมียนซัพบอกว่าทางบริษัทได้คืนตัวกลับให้ซัพคอนแทรกแล้วนะ บริษัทไม่ตอนการให้ดิฉันทำงานที่โรงงานนี้แล้วนะ เพราะว่าละเลยในหน้าที่ แล้วดิฉันก็กลับมาทำงานปกติ แต่พอเลิกงานจะสแกนนิ้วมือกลับบ้านแต่กลับสแกนนิ้วมือไม่ได้ทุกคนที่เป็นซัพคนแทรกทั้งหมด 11 คน สแกนนิ้วมือไม่ติด ทั้ง ๆ ที่ตอนเช้าสแกนติด แล้วจึงพากันกลับบ้าน ตอนเช้ามาทำงานอีกแต่เข้าโรงงานไม่ได้เพราะบริษัทไม่ไห้เข้า จึงรอที่หน้าโรงงานเสมียนซัพแต่ละคนก็ได้ออกมาบอกว่ามีโรงงานอื่นรองรับให้ไปทำที่โรงงานอื่นแทน แต่ต้องเขียนใบลาออกก่อน ดิฉันจึงคิดว่าถ้าเราเขียนใบลาออกก็เท่ากับว่ายอมรับข้อกล่าวหาที่บริษัทกล่าวหาไว้ จึงไม่เขียน พอตอนบ่ายจึงพากันไปกรมแรงงานจังหวัดปราจีนบุรี เล่าเรื่องทุกอย่างให้เจ้าหน้าที่ฟังบอกเจ้าหน้าที่บันทึกข้อความไว้แต่เจ้าหน้าที่ไม่ยอมบันทึกบอกว่าไม่ต้องบันทึกหรอกเพราะฟังเฉย ๆ ก็เข้าใจแล้ว สรุปไปที่กรงคุ้มครองสวัสดิภาพแรงงานจังหวัดก็ไม่ได้อะไรเลยนอกจากคำปรึกษา ว่าเราไม่มีสิทธิ์ไปต่อรองกับทางบริษัท ดิฉันก็เข้าใจว่าไม่มีสิทธิแต่ที่ทุกคนทั้งหมดอยากรู้ว่า พวกเราทำผิดอะไรถึงได้ไล่ออกจากบริษัทนี้ทั้ง ๆ ที่ทุกคนก็ทำงานดีทุกคน ใบเตือนก็ไม่เคยได้ ทำผิดวินัยก็ไม่เคนทำ แต่อยู่ ๆ มาไล่ออกเลย จึงทำให้ไม่แน่ใจในความยุติธรรมของบริษัทนี้ว่าเป็นแบบไหน จริง ๆ แล้วดิฉันเชื่อในกฏหมาคุ้มครองแรงงานเพราะที่เรียนมาทำให้เชื่อมั่นในกฏหมายแรงงานแต่เมื่อมาเจอกับตัวเองก็รู้ได้ว่ากฏหมายช่วยอะไรพวกเราได้หรือป่าว
ดิฉันเสียใจมากกับเรื่องที่เกิดขึ้นจึงทำดิฉันได้มาบันทึกข้อความนี้ไว้เพื่อให้ได้รู้ว่าความยุติธรรมไม่มีเลยในโรงงานนี้
ขอขอบคุณที่ได้ให้เนื้อที่ในการบึนทึกข้อความของดิฉัน
ขอขอบคุณค่ะ