Skip to main content

สำนักบริหารทรัพยากรบุคคล สำนักงานปลัดกระทรวงแรงงาน

เชือด 6 พนักงานเอเพ็คแกนนำประท้วงค่าแรง-หยันอยากได้เงินไปฟ้องเอาเอง เอเพ็คเลิกจ้างแถมดำเนินคดีทั้งแพ่ง-อาญา 6 พนักงานแกนนำชุมนุมประท้วงเรียกร้องค่าแรงที่ศาลากลางจังหวัด อ้างทำให้บริษัทเสียหาย เผยพนักงานระส่ำระส่าย ทำงานโดยยังคงค้างค่าแรง หวั่นลาออกไปแล้วไม่ได้เงินชดเชย ขณะที่บริษัทอ้างว่าอยากได้ไปฟ้องร้องเอาเอง ผู้จัดการชาวไต้หวันที่ลาออกและฟ้องเรียกเงินเดือนก็โดนด้วย ก่อนหน้านี้พนักงานฮือชุมนุมศาลากลางอีกครั้งแต่บริษัทขู่ให้กลับมาทำงาน มิฉะนั้นจะไล่ออก อ้างคำเดิมขาดสภาพคล่อง หลังจากเมื่อวันที่ 8 ต.ค.ที่ผ่านมา พนักงานในเครือเอเพ็ค กรุ๊ป ประกอบด้วย บริษัท เอเพ็ค พลาสติก จำกัด, บริษัท สตาร์ ยูนิเวอร์แซล จำกัด และ บริษัท เอโอ เคมีคอล จำกัด ตั้งอยู่เลขที่ 22/70 หมู่ที่ 4 ถ.วัดป่าชัยรังสี ต.บ้านเกาะ อ.เมืองฯ จ.สมุทรสาคร กว่า 200 คน รวมตัวกันที่ศาลากลางจังหวัดสมุทรสาคร เพื่อประท้วงนายจ้างที่ไม่ยอมจ่ายค่าจ้างและเงินออมทรัพย์แก่พนักงาน และเรียกร้องให้นายจุลภัทร แสงจันทร์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร ลงมารับหนังสือข้อเรียกร้อง 4 ข้อ และเรียกเจ้าของบริษัทมาเจรจาจ่ายเงินให้แก่พนักงานทั้งหมด ซึ่งภายหลังทั้งสองฝ่ายสามารถเจรจาและตกลงกันได้ ตามที่รายงานไปแล้วนั้น ล่าสุดมีรายงานว่า บริษัท เอเพ็ค พลาสติก จำกัด ได้มีคำสั่งให้พนักงานจำนวน 6 คน ประกอบไปด้วย นายพันธุ์ธัช เกียรติธนาฐิกุล, นายสมชัย แสงอินทร์, นายณัฐวุฒิ ตุ้มท่าไม้, นายจิรวัฒน์ เหล่าเขตกิจ, นายทนงค์ นุ่มวงษ์ และนางจิรัลภา ฉัตรวิชัยกุล ให้พ้นสภาพการเป็นพนักงาน พร้อมถูกดำเนินคดีทั้งทางแพ่งและอาญา ในข้อหานำพนักงานละทิ้งการปฏิบัติหน้าที่ ทำให้บริษัทได้รับความเสียหาย จากกรณีเป็นแกนนำเรียกร้องค่าแรงและเงินออมทรัพย์พนักงานที่บริษัทค้างจ่าย จนนำไปสู่การชุมนุมของพนักงานดังกล่าว นอกจากนี้พนักงานทั้ง 6 คน บริษัทฯ ยังได้ทำการติดประกาศห้ามเข้าภายในบริเวณบริษัทอีกด้วย แกนนำที่ถูกเลิกจ้างเปิดเผยกับสาครออนไลน์ว่า ขณะนี้พนักงานในเครือเอเพ็ค กรุ๊ปยอมกลับเข้ามาทำงานเพื่อรักษาสิทธิการเป็นลูกจ้าง และตามกฎหมายแรงงาน โดยพนักงานตั้งแต่ระดับซูเปอร์ไวเซอร์ลงมา ยังคงค้างค่าแรงคนละประมาณ 3-6 เดือน โดยที่บริษัทอ้างว่าถ้าอยากได้ให้ไปฟ้องกันเอาเอง ขณะนี้สภาพจิตใจของพนักงานระส่ำระส่าย เนื่องจากต้องทำงานโดยที่ยังไม่ได้รับค่าแรง และเกรงว่าหากลาออกไปจะไม่ได้รับเงินชดเชย นอกจากนี้ยังมีผู้จัดการชาวไต้หวันที่ลาออกไปก่อนหน้านี้เพราะบริษัทไม่จ่ายเงินเดือนได้ฟ้องทางบริษัทฯ แต่ทางบริษัทฯ ก็ฟ้องกลับในข้อหาบริหารงานผิดพลาด ทำให้บริษัทได้รับความเสียหายเช่นกัน ก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 12 ต.ค.ที่ผ่านมา สถานีโทรทัศน์ทีวีไทยรายงานว่า พนักงานในเครือเอเพ็ค กรุ๊ป ได้ประท้วงที่หน้าศาลากลางจังหวัดอีกครั้ง เพื่อเรียกร้องให้ช่วยเหลือ หลังจากทางโรงงานยังคงไม่จ่ายเงินเดือนพนักงานหลายเดือน และนำเงินออมทรัพย์ที่เก็บจากพนักงานคนละกว่า 20,000 บาท รวม 23 ล้านบาท ไปใช้โดยไม่แจ้งล่วงหน้า แต่ภายหลังมีการชี้แจงว่า เพราะว่าโรงงานขาดสภาพคล่อง ซึ่งที่ผ่านมาพนักงานรวมตัวร้องเรียนแล้วหลายครั้ง และแจ้งความไว้เป็นหลักฐาน อย่างไรก็ตาม ทางผู้บริหารของโรงงาน ได้ออกหนังสือขอให้พนักงานที่หยุดงานเพื่อประท้วงกลับเข้าทำงานตามปกติ โดยให้เหตุผลว่าโรงงานได้รับผลกระทบ มิฉะนั้นจะไล่ออก และปฎิเสธชี้แจงข้อเท็จจริงกับสื่อมวลชน ขณะที่ทางจังหวัดรับปากผู้ร้องเรียนว่าจะประสานทางโรงงานเพื่อแก้ปัญหา ทำให้พนักงานยอมสลายตัว ซึ่งในภายหลังกลับพบว่ามีการเลิกจ้างและดำเนินคดีเอาผิดกับพนักงานที่เป็นแกนนำประท้วงทั้ง 6 คนดังกล่าว สำหรับบริษัทในเครือเอเพ็ค กรุ๊ป ประกอบไปด้วย 3 บริษัท ซึ่งข้อมูลในกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ ระบุว่า บริษัท เอเพ็ค พลาสติกส์ จำกัด เป็นผู้ผลิตและจำหน่ายส่งออกพลาสติก ชีทสี ชีทใส หนังเทียม PVC เสื่อน้ำมัน และผลิตภัณฑ์จากพลาสติกอื่นๆ ก่อตั้งเมื่อปี 2532 ด้วยทุนจดทะเบียน 680 ล้านบาท สำนักงานใหญ่ตั้งอยู่เลขที่ 1/9-10 ถนนเพชรเกษม แขวงบางหว้า เขตภาษีเจริญ กรุงเทพฯ โดยมีนายอำนวย ตีระเมธี เป็นกรรมการบริษัท พร้อมด้วยนายวิถี เจริญพร, นายสถาพร โททอง, นายชัยศิริ บุญเย็น และนายถวิล บุญสิน ส่วนบริษัท สตาร์ ยูนิเวอร์แซล จำกัด จดทะเบียนเป็นผู้ผลิตกระเป๋าส่งออก ผลิตส่งออก- ขายส่ง พีวีซี และอุปกรณ์ ก่อตั้งเมื่อปี 2534 ด้วยทุนจดทะเบียน 25 ล้านบาท มีนายอำนวย ตีระเมธี เป็นกรรมการบริษัท พร้อมด้วยนายวิถี เจริญพร, นายสมภพ ธำรงเวียงผึ้ง, นายสถาพร โททอง, และนายถวิล บุญสิน และบริษัท เอโอ เคมิคอลส์ จำกัด จดทะเบียนเป็นผู้นำเข้า-ผลิต-ส่งออก-ขายส่ง-ขายปลีก เคมีภัณฑ์ทุกชนิด ก่อตั้งเมื่อปี 2536 ด้วยทุนจดทะเบียน 300 ล้านบาท มีนายอำนวย ตีระเมธี เป็นกรรมการบริษัท พร้อมด้วยนายวิถี เจริญพร, นายสมพจน์ นันต์นวรัตนกุล, นายชัยศิริ บุญเย็น, นายสถาพร โททอง, นายอากิระ ซาซากิ, นาย

TOP