การประชุมระดับรัฐมนตรีด้านแรงงาน CLMTV ครั้งที่ 2 ที่เวียดนาม สมาชิกทั้ง 5 ประเทศ รับรองปฏิญญาร่วม CLMTV ด้านการเคลื่อนย้ายแรงงานอย่างปลอดภัย และมีความคืบหน้าการหารือทวิภาคีในการแก้ไขปัญหาแรงงานผิดกฎหมาย โดยต้องมีความรับผิดชอบร่วมกัน ด้านรองนายกรัฐมนตรีสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนามเห็นชอบในการบริหารจัดการการเคลื่อนย้ายแรงงาน เพราะหากจัดการไม่ดี จะนำไปสู่การเข้าเมืองผิดกฎหมายและการค้ามนุษย์ในที่สุด
พล.อ. ศิริชัย ดิษฐกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ได้กล่าวว่า ในการประชุมระดับรัฐมนตรีด้านแรงงานของ CLMTV ครั้งที่ 2 ที่เมืองดานัง เวียดนาม เมื่อวันที่ 2 สิงหาคม 2560 โดยมี H.E. Mr. VU DUC DAM รองนายกรัฐมนตรีสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนามเป็นประธานเปิดประชุม พร้อมกับได้กล่าวยืนยันชัดเจนว่า มีความจำเป็นต้องบริหารจัดการการเคลื่อนย้ายแรงงานข้ามชาติให้ถูกต้องตามกฎหมายของแต่ละประเทศ หากไม่ดำเนินการให้ดีแล้วจะเป็นช่องทางให้มีการลักลอบเข้าเมืองผิดกฎหมาย อันจะนำไปสู่การค้ามนุษย์ต่อไป นอกจากนั้นในที่ประชุมได้เห็นชอบต่อปฏิญญาร่วม CLMTV ด้านการเคลื่อนย้ายแรงงานอย่างปลอดภัย ตามที่การประชุมระดับเจ้าหน้าที่อาวุโสของแต่ละประเทศได้ประชุมมาก่อนหน้านี้ โดยมีสาระสำคัญ คือ การเคลื่อนย้ายแรงงานอย่างปลอดภัยจะต้องให้ความสำคัญกับความแตกต่างของบริบททางสังคมและเศรษฐกิจของสมาชิก จะเกิดขึ้นได้ต้องเป็นความร่วมมืออย่างใกล้ชิดของผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งประเทศต้นทาง ประเทศปลายทาง หน่วยงานภาครัฐ และภาคเอกชน นายจ้างและลูกจ้าง โดยต้องสร้างระบบบริหารจัดการที่เข้มแข็ง รวมทั้งการส่งเสริมการข้ามแดนและการจ้างงานโดยถูกกฎหมายผ่านข้อตกลงทวิภาคี ซึ่งการประชุมครั้งที่ 3 ในอีก 2 ปีข้างหน้าประเทศกัมพูชาจะรับเป็นเจ้าภาพโดยก่อนหน้านี้ เมื่อ 2 ปีที่แล้วไทยเป็นเจ้าภาพการประชุมครั้งที่ 1
พล.อ.ศิริชัยฯ ได้กล่าวว่า สำหรับการประชุมทวิภาคีทั้งกับลาว เมียนมา และเวียดนาม มีความคืบหน้าในการจ้างงานต่างชาติและการแก้ไขปัญหาแรงงาน เพราะการประชุมทวิภาคีจะเป็นรากฐานสำคัญในการตกลงของบริบทด้านกฎหมาย สังคม และเศรษฐกิจที่แตกต่างกัน เพื่อหาหนทางการปฏิบัติที่ต่างฝ่ายต่างได้รับประโยชน์ด้วยกัน เพื่อความเข้มแข็งของทวิภาคีและจะก่อให้เกิดความเข้มแข็งใน CLMTV และนำไปสู่ความเข้มแข็งของ ASEAN ต่อไป ในการหารือทวิภาคีกับลาว โดย H.E. Mr. Khampheng Saysompheng รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงานและสวัสดิการสังคม สปป.ลาว ยินดีที่จะร่วมมือในการแก้ปัญหาแรงงานผิดกฎหมายในไทย ที่ดำเนินการอยู่ นอกจากจะเปิดศูนย์พิสูจน์สัญชาติผู้ที่ถือบัตรสีชมพูประมาณ 71,000 คน ที่ไอที สแควร์ หลักสี่ แล้ว จะหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องของลาวในการจัดทำหนังสือเดินทาง เพื่อให้แรงงานลาวที่ไม่มีเอกสารและมาแจ้งความจำนง คาดว่าประมาณ 60,000 คน ไม่ต้องเดินทางกลับประเทศไปทำหนังสือเดินทางที่ลาว หากเป็นไปได้ ก็จะอำนวยความสะดวกให้ทำเอกสารเดินทางที่ไทย คงจะได้คำตอบในเร็ว ๆ นี้
ส่วนการหารือทวิภาคีกับเมียนมา H.E. Mr. U Thein Swe รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ตรวจคนเข้าเมืองและประชากรของเมียนมา ได้ชื่นชมและยอมรับการจัดการแรงงานต่างด้าวของไทย ซึ่งได้รับแจ้งยอดแรงงานที่ไม่มีเอกสารใดๆ มาแจ้งความประสงค์ทำงานในไทยอาจมากถึง 350,000 คน นั้น จะให้ความเร่งด่วนแก่แรงงานส่วนนี้ทำการพิสูจน์สัญชาติเป็นลำดับแรก โดยจะเพิ่มเจ้าหน้าที่และจุดตรวจสัญชาติเคลื่อนที่มาดำเนินการในไทย จากเดิมที่มีจุดตรวจสัญชาติกลุ่มที่มีบัตรสีชมพูอยู่แล้ว 6 ศูนย์ พร้อมกับจะเร่งรัดคณะทำงานเพื่อจัดส่งแรงงานประมงมาไทยตามระบบรัฐต่อรัฐให้มีผลโดยเร็ว รวมทั้งให้ความสนใจต่อระบบประกันสังคมไทย โดยจะจัดเจ้าหน้าที่มาศึกษาวิธีการของประกันสังคมไทยต่อไป
สำหรับการหารือทวิภาคีกับเวียดนาม นั้น H.E. Dao Ngoc Dung รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ทุพพลภาพ และสวัสดิการสังคม สาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม ได้มีการหารือถึงประเภทกิจการ อาชีพที่ไทยอนุญาตให้ต่างด้าวทำงานได้ ซึ่งกระทรวงแรงงานกำลังดำเนินการเรื่องนี้อยู่ โดยจะเชิญภาคส่วนที่เกี่ยวข้องทั้งสภาอุตสาหกรรม หอการค้า สมาคมวิชาชีพต่าง ๆ รวมถึงนักวิชาการ มาหารือ ซึ่งจะได้ข้อสรุปในเร็ว ๆ นี้ พร้อมกับเร่งรัดให้เวียดนามได้ดำเนินการตาม MOU คือ ความร่วมมือด้านแรงงานประมงอีกด้วย
“ในการประชุมระดับรัฐมนตรีแรงงานของกลุ่ม CLMTV นี้ ทุกประเทศยอมรับและเห็นด้วยกับการบริหารจัดการแรงงานต่างด้าวของไทย ที่กำหนดขึ้นเป็นกฎหมาย และจะใช้เป็นโมเดลของตนเองต่อไป นอกจากนี้ ทุกประเทศให้ความสนใจต่อตัวเลขของแรงงานที่ไม่มีหลักฐานใดๆ ที่ทำงานอยู่ในไทย ที่ก่อนหน้านี้ได้ติดตามทางสื่อว่าจะมีจำนวน 2-3 ล้านคน แต่ผ่านการแจ้งความจำนงมา 10 วัน มียอดจริง ๆ ไม่ถึง 400,000 คน ซึ่งได้แจ้งให้สมาชิกในกลุ่ม CLMV ทราบแล้วว่า กระทรวงแรงงาน โดยอธิบดีกรมการจัดหางานได้ประเมินไว้เพียง 800,000 คน แต่ได้เตรียมสถานที่และเจ้าหน้าที่ไว้รองรับทั่วประเทศถึง 100 ศูนย์รับแจ้งนั้น เพื่อเตรียมอำนวยความสะดวก หากมีจำนวนแรงงานที่ไม่มีเอกสารใด ๆ จำนวนมากจริง ซึ่งหลังจากวันที่ 7 สิงหาคม นี้แล้ว เราก็จะได้ทราบยอดแรงงานต่างด้าวในไทยในรูปแบบและอาชีพต่าง ๆ เป็นภาพรวมที่ชัดเจนขึ้น และจะแจ้งให้สมาชิก CLMTV ทุกประเทศรับทราบเพื่อบริหารจัดการร่วมกัน” พล.อ.ศิริชัยฯ รมว.แรงงาน กล่าวในท้ายที่สุด
———————————————
กลุ่มงานโฆษกและการข่าว
กองเผยแพร่และประชาสัมพันธ์ สป.แรงงาน
3 ส.ค.60