‘นายกรัฐมนตรี’ ให้โอวาท 23 เยาวชนไทยก่อนเข้าแข่งขันฝีมือแรงงานนานาชาติที่บราซิล ย้ำ รัฐบาลพยายามสร้างความเข้มแข็งให้กับประเทศ ต้องพัฒนาทรัพยากรมนุษย์เพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน แนะเด็กไทยเรียนอาชีวะสร้างชาติ สร้างบุคลากรทางช่างฝีมือ มีงานทำ ได้ค่าแรงสูง พร้อมเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ ชี้ โลกไร้พรมแดนต้องพัฒนาตนเองอยู่เสมอ ใช้สมองแยกแยะทำสิ่งดีเพื่อประเทศชาติ
Preview
Download Images
พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กล่าวให้โอวาทแก่เยาวชนตัวแทนประเทศไทยที่เข้าร่วมการแข่งขันฝีมือแรงงานนานาชาติ ครั้งที่ 43 ณ เมืองเซาเปาโล สหพันธ์สาธารณรัฐบราซิล โดยมี พลเอก สุรศักดิ์ กาญจนรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เข้าร่วมในพิธีดังกล่าวด้วย ณ ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล ซึ่งนายกรัฐมนตรีกล่าวว่า ดีใจที่ได้พบกับอนาคตของชาติในวันข้างหน้า การเรียนอาชีวศึกษานั้นสำคัญ เพราะว่าวันนี้ประเทศไทยเรายังมีปัญหาเรื่องภาคเศรษฐกิจมีความเข้มแข็งยังไม่เพียงพอ จะมุ่งหวังเรื่องการส่งออกอย่างเดียวคงไม่ได้ ซึ่งการสร้างความเข้มแข็งให้ภาคเศรษฐกิจต้องเดินหน้าใหม่ทั้งเกษตร อุตสาหกรรม การใช้ทักษะฝีมือ การท่องเที่ยวและการบริการ สิ่งเหล่านี้จะทำให้รายได้ของประเทศสูงขึ้น นอกจากนี้เราไม่ได้สร้างขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศไว้มากนัก โดยเฉพาะทรัพยากรมนุษย์จึงต้องเน้นการพัฒนาฝีมือ ต้องยอมรับว่ามีพื้นฐานต่างกัน ที่ผ่านมาเราเผชิญกับปัญหาความขัดแย้งทำให้ประเทศเดินหน้าไปไม่ได้ วันนี้รัฐบาลและทุกส่วนราชการพยายามสร้างความเข้มแข็งให้กับประเทศโดยการเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันและพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ รัฐบาลนี้เข้ามาเพื่อที่จะวางอนาคตพื้นฐานให้กับลูกหลานทุกคน ซึ่งเป็นคนที่กำลังเจริญเติบโต และคนที่เพิ่งจะเกิดมาภายหลังเรา
นายกรัฐมนตรี กล่าวต่อว่า ในเรื่องการศึกษาระดับอาชีวะวันนี้รัฐบาลให้ความสำคัญมากที่สุด เนื่องจากปัจจุบันหลายคนเมื่อเรียนจบมหาวิทยาลัยแล้วไม่มีงานทำ เนื่องจากผลิตคนไม่ตรงกับความต้องการของประเทศ แต่ขณะเดียวกันสาขาช่างต่างๆ มีคนเรียนน้อยเนื่องจากพ่อแม่เป็นห่วงว่าลูกจะได้รับอันตรายเนื่องจากมีข่าวเด็กอาชีวะตีกันบ่อยครั้ง ดังนั้นรัฐบาลให้แนวคิดใหม่ว่า “อาชีวะสร้างชาติ สร้างบุคลากรทางช่างฝีมือ”ขณะนี้เราขาดแรงงานฝีมือหลายหมื่นคน ประกอบกับการเปิดประชาคมอาเซียนในปีหน้าทำให้มีความต้องการแรงงานฝีมือสูงขึ้น ดังนั้นรัฐบาลจึงให้กระทรวงศึกษาธิการและกระทรวงแรงงานประสานงานกันเพื่อสำรวจบัญชีผู้ที่เรียนจบแล้วไม่มีงานทำมีจำนวนเท่าใดและสามารถพัฒนาฝีมือแรงงานได้หรือไม่
ปัจจุบันรัฐบาลพยายามจะสร้างอุตสาหกรรมที่มีการใช้เครื่องมือเครื่องจักรที่ทันสมัย โรงงานแบบใหม่ขึ้นมา และคนที่จะมาทำงานในอุตสาหกรรมเหล่านี้ได้จะต้องมีทักษะฝีมือและได้รับค่าแรงที่สูงขึ้น ซึ่งต่างประเทศได้ชื่นชมฝีมือคนไทย แต่ในขณะเดียวกันทำงานเก่งอย่างเดียวไม่พอต้องมีความสามารถในเรื่องภาษาด้วยทั้งภาษาอังกฤษและภาษาญี่ปุ่น ขอฝากกระทรวงแรงงานให้ช่วยกำชับสถานประกอบกิจการ โรงงานติดป้ายประชาสัมพันธ์เป็นภาษาต่างประเทศนอกเหนือจากภาษาไทยเพื่อให้เกิดการจดจำและสามารถสื่อสารได้ภายในสถานประกอบการ
“วันหน้าโลกไม่มีพรมแดนแล้ว เมื่อเปิดอาเซียนการเคลื่อนย้ายแรงงานเสรีมีมากขึ้น สินค้าเข้ามามากขึ้น เรื่องนี้เป็นเรื่องของโลก มีความเชื่อมโยงซึ่งกันและกัน ฉะนั้นการทำงานเพื่อให้เป็นมืออาชีพไม่ใช่ง่ายๆ วันนี้ไม่ได้จบแค่นี้ วันหน้าต้องพัฒนาต่อไปอีก เพราะโลกเปลี่ยนทุกวัน ทุกอย่างอยู่ที่มันสมองของตัวเองเป็นสิ่งสำคัญที่สุด แยกแยะให้ได้ และเราต้องทำสิ่งดีดีเพื่อประเทศชาติ” นายกรัฐมนตรี กล่าว
หม่อมหลวงปุณฑริก สมิติ อธิบดีกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน กล่าวว่า การแข่งขันฝีมือแรงงานนานาชาติ (World Skills) ครั้งที่ 43 จัดขึ้นที่เมืองเซาเปาโล สหพันธ์สาธารณรัฐบราซิล ระหว่างวันที่ 4 -19 สิงหาคม 2558 เพื่อประชาสัมพันธ์ความสามารถของช่างฝีมือไทยให้เป็นที่ประจักษ์แก่นานาประเทศตลอดจนถึงการนำชื่อเสียงมาสู่ประเทศไทย เป็นการจูงใจและสนับสนุนให้เยาวชนเห็นความสำคัญของการพัฒนาฝีมือแรงงานและอาชีพต่างๆ ซึ่งจะเป็นการช่วยลดปัญหาการขาดแคลนแรงงานฝีมือได้อีกทางหนึ่ง เป็นการยกระดับฝีมือแรงงานไทยให้ทัดเทียมกับมาตรฐานสากล และแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสารและเทคโนโลยีใหม่ๆ ที่เป็นประโยชน์ในด้านการพัฒนาฝีมือแรงงาน ซึ่งเป็นการส่งเสริมงานด้านการพัฒนาฝีมือแรงงานให้มีประสิทธิภาพและได้มาตรฐานทัดเทียมนานาประเทศ สำหรับการแข่งขันครั้งนี้ประเทศไทยส่งเยาวชนจำนวน 23 คนเข้าร่วมการแข่งขันทั้งหมด 21 สาขา
