รมว.แรงงาน เตือน แรงงานไทยที่จะไปทำงานต่างประเทศต้องไปอย่างถูกกฎหมาย ถึงจะได้รับการคุ้มครองจากทางการ ส่วนกรณีแรงงานไทยป่วยเป็นโรคปอดติดเชื้อและถูกนายจ้างทอดทิ้งที่กรุงอาบูดาบี ขณะนี้ฝ่ายแรงงานฯ ได้เข้าไปดำเนินการให้ความช่วยเหลือประสานงานอย่างใกล้ชิดกับแรงงานไทย ในประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์
วันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2562 จากเหตุการณ์ที่แรงงานไทย ซึ่งเป็นพนักงานนวดร้านสปาในเมืองดูไบ ล้มป่วยด้วยอาการปอดติดเชื้อและเข้าพักรักษาตัวที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่ง ตั้งแต่วันที่ 24 พ.ย. 61 ล่าสุดฝ่ายแรงงานฯ ณ กรุงอาบูดาบีได้เข้าไปเยี่ยมแรงงานคนดังกล่าวและให้ความช่วยเหลืออย่างใกล้ชิดแล้ว
เบื้องต้นฝ่ายแรงงานฯ ณ กรุงอาบูดาบียังได้ตรวจสอบข้อเท็จจริงของแรงงานไทยผู้เสียหาย พบว่า แม้จะเดินทางมาทำงานโดยใช้ Employment visa แต่ก็เข้ามาทำงานนวดอย่างไม่ถูกต้องตามกฎหมายของประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (UAE) มีบริการแอบแฝงและถูกเอาเปรียบจากนายจ้างในลักษณะเก็บค่าใช้จ่ายต่างๆ เช่น ค่าทำ Visa ค่าที่พัก และถูกยึด Passport เป็นการกระทำที่ผิดกฎหมายของ UAE ตามกฎหมาย UAE นายจ้างเป็นผู้รับผิดชอบค่าใช่จ่ายในการนำแรงงานทั้งหมด เช่น ค่าทำ Visa ค่าตรวจร่างกาย ค่าประกันสุขภาพ รวมทั้งที่พักอาศัย พร้อมอุปกรณ์อำนวยความสะดวก ทั้งนี้ สอท. ณ กรุงอาบูดาบี สกญ. ดูไบ ได้ดำเนินการประสานงานอย่างใกล้ชิดเพื่อให้การช่วยเหลือต่อไป
พลตำรวจเอก อดุลย์ แสงสิงแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน จึงขอเตือนคนไทยที่จะเดินทางไปทำงานต่างประเทศ จะต้องไปด้วยวิธีการที่ถูกต้องตามกฎหมาย เพราะการเดินทางไปทำงานอย่างถูกกฎหมายจะได้รับการคุ้มครองด้านสิทธิประโยชน์จากทางการ ขณะที่การลักลอบเข้าไปทำงานอย่างผิดกฎหมาย จะทำให้การได้รับความช่วยเหลือเป็นไปด้วยความยากลำบาก และไม่สามารถเรียกร้องสิทธิใดๆ จากนายจ้างได้ จึงขอให้แรงงานไทยตระหนักถึงการเดินทางไปทำงานที่ถูกต้องตามกฎหมายและขอให้ศึกษาข้อมูลรายละเอียดที่เกี่ยวข้องให้ชัดเจน ก่อนตัดสินใจไปทำงานต่างประเทศ ทั้งนี้สามารถติดต่อสอบถามข้อมูลได้ที่ กรมการจัดหางาน กระทรวงแรงงาน โทรสายด่วน 1506 กด 2 หรือ โทร. 0 2247 9423 , 0 2248 4743
————————————
กองเผยแพร่และประชาสัมพันธ์
อารีรัตน์ อัยราคม – ข่าว/
สำนักประสานความร่วมมือระหว่างประเทศ – ข้อมูล/
1 กุมภาพันธ์ 2562