พลเอกสุรศักดิ์ กาญจนรัตน์ ฝาก รมว.แรงงาน ‘คนใหม่’ ขับเคลื่อนงานเดิมต่อ ตามแผนโรดแมปรัฐบาล ก่อนไปรับตำแหน่งรมว.ทรัพย์ฯ ภูมิใจผลงานด้านแรงงาน 11 เดือน ย้ำ ขรก.แรงงาน โชคดีที่ได้ดูแลและให้ความช่วยเหลือแรงงานและประชาชนอย่างแท้จริง เพราะ‘ผู้ให้ย่อมเป็นที่รัก’ ขอให้ ขรก. ร่วมใจทำงานเพื่อประโยชน์ของประเทศชาติ
Preview
Download Images
พลเอก สุรศักดิ์ กาญจนรัตน์ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ซึ่งได้รับการแต่งตั้งเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ได้กล่าวคำอำลาข้าราชการกระทรวงแรงงาน ณ ห้องประชุม จอมพล ป. พิบูลสงคราม ชั้น 5 กระทรวงแรงงาน ว่า ตลอดชีวิตที่รับราชการทหารมาไม่เคยคาดหวังตำแหน่งทางการเมือง เพราะได้เกษียณราชการทหารมาจากตำแหน่งปลัดกระทรวงกลาโหม เป็นทหารอัตราจอมพล เป็นความภาคภูมิใจแล้ว ตลอดระยะเวลา 11 เดือน ที่ได้รับมอบหมายให้ดูแลกระทรวงแรงงานได้พยายามทำงานด้วยความทุ่มเท เพราะต้องการทำงานให้สำเร็จ เนื่องจากได้รับมอบหมายให้เข้ามาแก้ไขปัญหาของชาติบ้านเมือง จากปัญหาความขัดแย้งทางความคิด มีความแตกต่างทางความเชื่อ ใส่ร้ายป้ายสีกันจนกระทั่งยุงยงให้เกลียดชังกัน มากพอจนมีการใช้ความรุนแรงทำร้ายกัน ทำให้คณะทหารเข้ามาควบคุม ต้องเข้ามาดูแลบริหารจัดการประเทศ
สำหรับการทำงานของกระทรวงแรงงานข้างหน้าต่อไป จะเป็นการทำงานต่อเนื่อง โดยจะส่งต่อการทำงานให้ พลเอก ศิริชัย ดิษฐกุล ปลัดกระทรวงกลาโหม ที่ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงานคนใหม่ ได้สานต่อ โดยได้สรุปงานสำคัญไว้ 8 กลุ่มงาน อาทิเช่น การหางานให้คนไทย ซึ่งได้ขยายให้เป็นการพัฒนาศักยภาพเพื่อให้คนไทยมีงานทำ, เร่งรัดศูนย์ข้อมูลแห่งชาติ,ความปลอดภัยในการทำงาน, แรงงานสัมพันธ์,ประกันสังคม และพัฒนาฝีมือแรงงาน และจะเสนอเป็นกรอบแนวทางการทำงานไว้ให้รัฐมนตรีคนใหม่ ซึ่งจะไม่ทำให้งานสะดุดลง สอดคล้องกับโรดแมปของรัฐบาลพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา 3 ระยะ โดยช่วงแรกของรัฐบาลประยุทธ์ 1 และ 2 จะเป็นการจัดระเบียบ วางแผน ทำโรดแมป สำหรับรัฐบาลประยุทธ์ 3 จะเป็นช่วงการขับเคลื่อนแผนงานให้บรรลุผล ที่ผ่านมา 11 เดือน ได้ทำแผนไว้ให้แล้ว ซึ่งได้สรุปเป็นงานไว้แล้ว 8 กลุ่มงาน เพื่อให้ขับเคลื่อนต่อไป
กลุ่มงานที่ 1 มีความสำคัญที่สุด คือ คนไทยทั้งหมดที่จะต้องได้รับการดูแลจากกระทรวงแรงงาน รวมถึงแรงงานนอกระบบ ให้มีงานทำ มางานทำได้ที่ศูนย์บริหารจัดหางานเพื่อคนไทย (Smart Job Center) และหากจะพัฒนาฝีมือแรงงานได้ ต้องมีศูนย์ข้อมูลแห่งชาติ และเพื่อให้งานมีประสิทธิภาพเพิ่มมากขึ้นจะมีสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ จะเข้ามาอยู่ภายใต้กำกับของกระทรวงแรงงาน เป็นหน่วยงานที่เป็นองค์การมหาชน กำลังอยู่ในขั้นตอนเสนอเข้าคณะรัฐมนตรี ซึ่งต้องมีการทำงานร่วมกับกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน จะมีงานเพิ่มขึ้น แต่งานจะมีประสิทธิภาพมากขึ้น
สำหรับการบริหารจัดการด้านแรงงานต่างด้าว ซึ่งเกี่ยวพันการแก้ปัญหาค้ามนุษย์ ที่ไทยยังติดในเทียร์ 3 และปัญหา IUU โดยมองว่าไทยมีปัญหาการใช้แรงงานบังคับ แรงงานทาส อยู่ และพบว่ากฎหมายไทยยังไม่ได้กำหนดถึงเรื่องนี้ไว้ แต่ต่างชาติยังคงกล่าวหาในเรื่องนี้อยู่ ทำให้เราแก้ไม่ตรงโจทย์ ดังนั้นจำเป็นต้องปรับปรุงคุณภาพการทำงานและวิธีคิดใหม่ของเจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานให้เกิดขึ้น เพื่อให้การบริหารจัดการปัญหาให้เรียบร้อย แต่ไม่น่ากังวลเนื่องจากพลเอก ศิริชัย ดิษฐกุล เป็นเสนาธิการทหารและเคยเป็นประ ธาน อกนร. มาก่อน ซึ่งทราบเรื่องแรงงานต่างด้าวดีอยู่แล้ว
ด้านกลุ่มงานต่างประเทศ กระทรวงแรงงานมีความสำคัญมากขึ้น ที่ผ่านมาได้ร่วมลงนาม MOU ด้านแรงงานกับประเทศเวียดนาม ซึ่งเป็นเนื้องานระดับประเทศแต่เป็นงานกระทรวงแรงงาน และทางกระทรวงแรงงานของประเทศจีนก็ได้ทำหนังสือเข้ามาว่าอยากเข้าพบเพื่อขอทำ MOU ยังไม่รวมประเทศบังคลาเทศ และภูฏาน จึงเป็นช่องทางให้ไทยเลือกใช้แรงงานนำเข้าได้แล้ว ใช้เป็นเครื่องมือในการสานความสัมพันธ์ระหว่างประเทศได้ด้วย สำหรับประเทศอินโดนีเซีย ความสัมพันธ์ด้านแรงงานยังไม่ค่อยมี และมีความต้องการพัฒนาฝีมือแรงงานเพราะมีแรงงานจำนวนมากแต่การพัฒนาฝีมือมีน้อย ซึ่งจะสานสัมพันธ์และขยายต่อไปเพราะด้านแรงงานมีความสำคัญ
| เรื่องกฎหมายด้านแรงงานได้มีการออกกฎหมายไปแล้ว และกำลังออกกฎหมายลูกอยู่ อาทิ กฎหมายพัฒนาฝีมือแรงงาน ,กฎหมายประกันสังคม, พ.ร.บ.แรงงานทางทะเล, และร่าง พ.ร.บ.คุ้มครองแรงงาน ร่าง พ.ร.บ.แรงงานสัมพันธ์และร่าง พ.ร.บ.รัฐวิสาหกิจสัมพันธ์ ซึ่งทั้ง 3 ร่าง นี้มีความสำคัญเป็นหัวใจของผู้ใช้แรงงาน ทั้งนี้ ตัวแทนหอการค้าประเทศญี่ปุ่น ได้เสนอว่ากระทรวงแรงงานควรทำไกด์ไลน์ (Guide line) เกี่ยวกับกฎหมายแรงงาน เพื่อให้นักลงทุนจากต่างชาติ ได้ศึกษา และเข้าใจทำงานร่วมกับเราได้อย่างชัดเจนไม่ต้องมาตีความ และเรื่องสุดท้ายที่ได้สรุปไว้ คือ เรื่องการบริหารงานบุคคลและการปฏิรูประบบราชการ ระบบการคัดเลือกผู้บริหาร การโยกย้าย/ปรับเปลี่ยนข้าราชการ เป็นต้น การปฏิรูประบบราชการ ได้แก่การปฏิรูปประกันสังคม, การเรียกร้องตั้งกรมความปลอดภัยของผู้ใช้แรงงาน , การบริหารงานของกรมการจัดหางานที่เป็นทั้งผู้ควบคุมและตรวจสอบการบังคับใช้กฎหมายเกี่ยวกับแรงงานต่างด้าว
“ขอให้ชาวกระทรวงแรงงาน ได้สร้างสมความดี ขอให้เชื่อมั่นในความเป็นข้าราชการ เพราะประเทศชาติดำรงมาถึงทุกวันนี้เพราะมีระบบราชการ จึงขอให้ทุกคนภูมิใจในความเป็นข้าราชการ ทำงานเพื่อประชาชน และเป็นข้าราชการในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว” พลเอกสุรศักดิ์ กาญจนรัตน์ กล่าวปิดท้าย