นายภูมิพัฒน์ เหมือนจันทร์ โฆษกกระทรวงแรงงาน เปิดเผยว่า นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ขอส่งความปรารถนาดีไปยังพี่น้องผู้ใช้แรงงานทั้งในระบบและแรงงานอิสระเนื่องในโอกาสวันขึ้นปีใหม่ไทยหรือวันสงกรานต์ประจำปี 2568 โดยในช่วงเทศกาลปีนี้กระทรวงแรงงานได้ขอความร่วมมือนายจ้างให้ลูกจ้างหยุดงาน กำชับชั่วโมงการทำงานของพนักงานขับรถห้ามทำงานเกินวันละ 8 ชั่วโมง ล่วงเวลาไม่เกิน 2 ชั่วโมง และเว้นระยะพัก 10 ชั่วโมง เพื่อความปลอดภัยของผู้โดยสาร ให้บริการตรวจสภาพรถฟรีตั้งแต่วันที่ 11 – 17 เม.ย.68 ที่จุดบริการริมทางภายใต้แนวคิดขับขี่ดี DSD ก่อนเดินทาง แจกน้ำดื่มและสติ๊กเกอร์ความปลอดภัยกับกิจกรรมเติมใจ ปลอดภัย ทุกเส้นทาง ให้ผู้ประกันตนที่เจ็บป่วยฉุกเฉินเข้ารักษาฟรีในทุกโรงพยาบาลที่ใกล้ที่สุดภายใน 72 ชั่วโมง โดยใช้บัตรประชาชนเพียงใบเดียวเชื่อมสิทธิประโยชน์ประกันสังคมได้ทันที รวมทั้งผ่อนผันให้แรงงานต่างด้าวชาวกัมพูชา ลาว เมียนมา ที่มีใบอนุญาตทำงานถูกต้องเดินทางกลับบ้านช่วงสงกรานต์ได้โดยไม่ต้องขอ RE-Entry Permit ตั้งแต่ 1 เม.ย. – 15 พ.ค.68
โฆษกกระทรวงแรงงาน กล่าวว่า แม้จะเป็นช่วงวันหยุดเทศกาลและประชาชนส่วนใหญ่เดินทางกลับภูมิลำเนาหรือท่องเที่ยวกับครอบครัว แต่กระทรวงแรงงานยังคงปฏิบัติหน้าที่ดูแลญาติผู้เสียชีวิต ลูกจ้าง และนายจ้าง ที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์แผ่นดินไหวเมื่อวันที่ 28 มี.ค. ที่ผ่านมา ผ่านศูนย์ประสานงานและช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ดังกล่าว ณ ห้าง JJ Mall และสำนักงานประกันสังคมยังจัดเจ้าหน้าที่อำนวยความสะดวกด้านสิทธิประโยชน์ของผู้ประกันตนที่ได้รับผลกระทบ ณ แผนกนิติเวช โรงพยาบาลตำรวจ เพื่อดูแลให้บริการกับญาติผู้เสียชีวิตทุกวัน ซึ่งล่าสุดข้อมูล ณ วันที่ 12 เม.ย.68 สำนักงานประกันสังคมเริ่มจ่ายเงินเยียวยาให้กับทายาทผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์แผ่นดินไหว ซึ่งมียอดรวมผู้เสียชีวิตทั้งประเทศ 41 คน จำนวนเงินทั้งสิ้น 25,115,881 บาท และเฉพาะผู้เสียชีวิตที่ ตึก สตง. 34 คน จำนวนเงินทั้งสิ้น 20,428,044 บาท ประกอบด้วย ค่าทำศพ เงินทดแทนกรณีเสียชีวิต และเงินชราภาพ ขณะเดียวกันกระทรวงแรงงานได้สำรวจและรวบรวมข้อมูลสถานประกอบการและลูกจ้างที่ได้รับผลกระทบเพื่อให้ความคุ้มครองตามกฎหมายอย่างเต็มที่ โดยเฉพาะการจ่ายค่าจ้างให้แก่ลูกจ้างกรณีที่นายจ้างต้องปิดกิจการหรือต้องหยุดกิจการชั่วคราว
“เพื่อความปลอดภัยในการทำงานกระทรวงแรงงานได้ช่วยตรวจสอบระบบไฟฟ้า เครื่องจักร และปั้นจั่น ให้กับสถานประกอบการ พร้อมทั้งได้จัดเตรียมวงเงินกู้จากกองทุนความปลอดภัย อาชีวอนามัยและสภาพแวดล้อมในการทำงานไว้ดูแลช่วยเหลือนายจ้างลูกจ้างโดยไม่จำกัดวงเงิน อัตราดอกเบี้ยเพียง 2% ต่อปี ผ่อนชำระสูงสุด 5 ปี รวมทั้งเปิดโอกาสให้ลูกจ้างในสถานประกอบการที่มีสหกรณ์ออมทรัพย์ สามารถขอกู้เงินจากกองทุนเพื่อผู้ใช้แรงงานได้ในวงเงิน 20 ล้านบาท อัตราดอกเบี้ย 2% ต่อปี ระยะเวลาผ่อนชำระ 5 ปี เช่นเดียวกัน โดยมุ่งหวังบรรเทาความเดือดร้อนและช่วยให้ทุกฝ่ายสามารถกลับมาดำเนินชีวิตได้อย่างปกติและฟื้นฟูกิจการได้โดยเร็ว” นายภูมิพัฒน์ กล่าว
