วันที่ 18 พฤศจิกายน 2567 เวลา 14.00 น. นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน มอบหมายให้ นายสิรภพ ดวงสอดศรี ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงแรงงาน ให้การต้อนรับ นายยู ซังบอม (Yoo Sang-Beom) นางสาวโจ แบซุก (Cho Bae-Sook) และนายซง ซอกจุน (Song Seokjun)สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร กรรมาธิการนิติบัญญัติและตุลาการรัฐสภาแห่งสาธารณรัฐเกาหลี และคณะ เข้าพบ เพื่อเข้าเยี่ยมคารวะ และหารือข้อราชการประเด็นด้านนโยบายและกฎหมายการตรวจคนเข้าเมืองระหว่างประเทศในปัจจุบัน และแลกเปลี่ยนความคิดเห็นเกี่ยวกับการตรวจคนเข้าเมืองเพื่อการปรับปรุงกฎหมายที่เกี่ยวข้อง รวมถึงประเด็นด้านแรงงานอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง โดยมี นายเดชา พฤกษ์พัฒนรักษ์ รองปลัดกระทรวงแรงงาน รักษาราชการแทน อธิบดีกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน นายศักดินาถ สนธิศักดิ์โยธิน ผู้ช่วยปลัดกระทรวงแรงงาน พร้อมด้วยผู้บริหารกระทรวงแรงงาน และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วม ณ ห้องจัตุมงคล ชั้น 6 อาคารกระทรวงแรงงาน
นายสิรภพ กล่าวว่า ท่านพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ติดภารกิจสำคัญ จึงได้มอบหมายให้ผมเป็นผู้แทนในการต้อนรับและหารือแลกเปลี่ยนข้อมูลในวันนี้ กระทรวงแรงงานยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ไทยและสาธารณรัฐเกาหลีมีความสัมพันธ์ที่ดีมาอย่างยาวนาน โดยเฉพาะด้านแรงงานซึ่งเป็นส่วนสำคัญที่ช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจของทั้งสองประเทศ ปัจจุบันมีแรงงานเกาหลีที่ทำงานในประเทศไทย จำนวน 5,111 คน ส่วนใหญ่เป็นผู้ประกอบวิชาชีพ ผู้จัดการบริษัท เจ้าหน้าที่บริหารของหน่วยงานเอกชน ผู้ปฏิบัติงานเทคนิคที่เกี่ยวข้องอื่นๆ กระทรวงแรงงานขอขอบคุณรัฐบาลเกาหลีใต้ ที่เปิดช่องทางให้แรงงานไทยไปทำงานเกษตรแบบฤดูกาลได้ โดยกรมการจัดหางานได้ลงนาม MOU กับท้องถิ่นของเกาหลีใต้แล้ว 4 แห่ง ในจังหวัดชอลลาบุกและชอลลานัม และยินดีที่จะขยายความร่วมมือและลงนาม MOU กับท้องถิ่นอื่นๆ อีกจึงขอให้ท่าน สส. ช่วยประชาสัมพันธ์เชิญชวนจังหวัดต่างๆ ให้ลงนาม MOU กับกรมการจัดหางานเพื่อรับแรงงานไทยมาทำงาน เนื่องจากแรงงานไทยมีความเชี่ยวชาญงานเกษตร มีความมานะอดทนและจะช่วยรองรับความต้องการแรงงานภาคเกษตรตามฤดูกาลของเกาหลีใต้ได้เป็นอย่างดี โดยขอให้แจ้งมายังฝ่ายแรงงานประจำสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงโซล ทราบ เพื่อจะได้ให้กรมการจัดหางานดำเนินการต่อไป โดยไม่จำเป็นต้องผ่านนายหน้าใดๆ ซึ่งจะเป็นวิธีที่ปลอดภัยและเป็นธรรมต่อแรงงานมากที่สุด
นายสิรภพ ยังกล่าวถึงการป้องกันลักลอบเข้าไปทำงานผิดกฎหมายของแรงงานไทยว่า กระทรวงแรงงานยินดีร่วมมือกับเกาหลีใต้เพื่อป้องกันการพำนักอย่างผิดกฎหมายของแรงงานไทยในเกาหลีใต้ โดยปัจจุบันกระทรวงแรงงานและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ดำเนินมาตรการป้องกันและปราบปรามการลักลอบไปทำงานในเกาหลีใต้ เช่น การตรวจตราป้องกันไม่ให้เกิดการหลอกลวงแรงงานและการลักลอบไปทำงานต่างประเทศ การปราบปรามและดำเนินคดีกับนายหน้าจัดหางานที่หลอกลวงคนหางานและผู้มีพฤติกรรมโฆษณาชักชวนคนหางานไปทำงานโดยไม่ได้รับอนุญาตทางสื่อสังคมออนไลน์ นอกจากนี้ ยังรณรงค์ประชาสัมพันธ์อย่างต่อเนื่องและทั่วถึง เพื่อให้คนหางานมีความรู้ความเข้าใจถึงขั้นตอนการไปทำงานต่างประเทศอย่างถูกต้องตามกฎหมาย
“การหารือในวันนี้จะเป็นประโยชน์อย่างยิ่งต่อการพัฒนานโยบายและการปรับปรุงกฎหมายเพื่อให้สอดคล้องกับสภาพแวดล้อมของการทำงานในปัจจุบัน โดยกระทรวงแรงงานยินดีรับฟังแนวทางหรือข้อเสนอแนะจากท่านเพื่อส่งเสริมให้แรงงานไทยไปทำงานในเกาหลีใต้ในสาขาที่มีความต้องการแรงงานผ่านช่องทางที่ถูกต้องและได้รับความเป็นธรรม” นายสิรภพ กล่าว
ด้าน นายยู ซังบอม (Yoo Sang-Beom) สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร กรรมาธิการนิติบัญญัติและตุลาการรัฐสภาแห่งสาธารณรัฐเกาหลี กล่าวว่า ขอขอบคุณท่านผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงแรงงานและคณะที่ให้การต้อนรับและเปิดโอกาสให้เข้าพบเพื่อหารือแลกเปลี่ยนข้อมูลกันในวันนี้ แรงงานไทยมีความกระตืนรือร้นในการทำงาน ทำให้คนเกาหลีประทับใจแรงงานไทย และยังมีความต้องการแรงงานตามฤดูกาลอีกมาก การหารือในวันนี้จึงเป็นประโยชน์อย่างยิ่งที่ทำให้คนไทยได้ไปทำงานที่ประเทศเกาหลีมากขึ้น ขณะเดียวกันนายจ้างเกาหลีเองก็จะได้แรงงานในสาขาที่ต้องการ