นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน กล่าวถึงเรื่องมาตรการช่วยเหลือแรงงาน ที่ได้รับผลกระทบจากสงครามในอิสราเอล ว่า คนที่กลับมาในช่วงนี้ทางกรมการจัดหางาน กระทรวงแรงงานเราจะไม่ส่งกลับไปเด็ดขาด จนกว่าสงครามจะยุติ
.
นายพิพัฒน์ กล่าวว่า เราเชิญชวนให้เพื่อนๆผู้ใช้เแรงงาน กลับมาสู่ประเทศไทย กลับมาสู่อ้อมกอดของครอบครัว เมื่อท่านปลอดภัยแล้วก็ขอให้ท่านได้อยู่กับครอบครัวสักช่วงหนึ่งก่อน เมื่อสงครามยังไม่สงบ และเมื่อสงครามสงบแล้ว ทางกรมการจัดหางาน จะเจรจาผ่านไปถึงทางประเทศอิสราเอล ว่าเมื่อเหตุการณ์ทุกอย่างยุติอยู่ในความสงบเรียบร้อย เราจะขอส่งแรงงานดังกล่าวกลับไปทำงานที่ประเทศอิสราเอลอีกครั้งหนึ่ง
.
“เขายินดีที่จะให้พวกเรากลับไปทำงานปกติคนที่ทำงานครบ 5 ปี 3 เดือน ตามสัญญาและไม่สามารถกลับไปได้นะ แต่ในเหตุการณ์ที่เกิดความไม่สงบในครั้งนี้ คนที่ทำงานครบ 5 ปี 3 เดือน สามารถกลับไปทำงานต่อได้อีก 1ปี นี่คือสิทธิ์ที่ทางการอิสราเอลให้กับทางกระทรวงแรงงานของเรา”นายพิพัฒน์ กล่าว
.
รมว.แรงงาน กล่าวว่า ส่วนเพื่อนๆที่กลับมาจากประเทศอิสราเอลขณะนี้ทางกระทรวงแรงงานเราก็ไม่ได้นิ่งนอนใจ กำลังหางานในประเทศไทย และหางานในประเทศอื่น ที่มีความประสงค์ จะรับคนงานที่มีความเชี่ยวชาญ ทางด้านการเกษตรกลับไปทำงานในประเทศนั้นๆ ที่มีการลงนามในเอ็มโอยูไปแล้ว คือประเทศเกาหลีใต้ เราพยายามที่จะเจาะตลาดประเทศอื่นๆ ที่มีการพัฒนาในด้านการเกษตร และต้องการผู้ที่มีทักษะในเรื่องของการเกษตรโดยเฉพาะคนไทยอีกหลายหลายประเภท ไม่ว่าจะเป็นในประเทศแถบยุโรป หรือในออสเตรเลีย ซึ่งขณะนี้ก็มีการแจ้งความจำนงมาที่กระทรวงแรงงาน ว่าต้องการแรงงานที่มีความเชี่ยวชาญด้านเกษตรโดยเฉพาะการเก็บผลไม้ การปลูกผัก การปลูกผลไม้เพื่อไปทำงานในประเทศเขา ซึ่งเขากำลังประสาน และจะลงนามในเอ็มโอยูในการที่จะส่งแรงงานไปในต่างประเทศ
.
มีการประสานไปทางท่านนายกรัฐมนตรีว่าเป็นไปได้ว่าจะมีข้อไหนบ้าง 2 กรณี คือ คนที่กู้หนี้ยืมสินไปทำงานในอิสราเอลและยังทำงานไม่ครบ 5 ปี 3 เดือน ตรงนี้เมื่อกลับมาก่อนเว้นระยะเวลาในสัญญา ยังมีที่หนี้สินค้างอยู่ ทางกระทรวงก็จะขออนุมัติให้ท่านนายกรัฐมนตรีช่วยกรุณาเอาแบงก์รัฐมาค้ำประกันต่อ หรือปล่อยเงินกู้ตามที่แรงงานแต่ละท่านในระบบ หรือนอกระบบ ถ้าหากว่าแรงงานของเราคนใดคนหนึ่ง
.
นายพิพัฒน์ กล่าวว่า สำหรับคนที่กลับจากประเทศอิสราเอล โดยเฉพาะเรื่องของภัยสงครามในครั้งนี้ ได้เยียวยาให้คนละ 15,000 บาท และทางกระทรวงแรงงานจะขอหารือนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ว่าถ้าท่านนายกรัฐมนตรี มีการพูด หรือมีการให้สัมภาษณ์ออกมาว่าจะขอให้ช่วยเยียวยาเพิ่มเติม ผมเองก็จะทำเรื่องของบกลางซึ่งก็พยายามจะทำให้ได้ภายในการประชุม ครม.สัปดาห์หน้า ว่าทางรัฐบาลจะเติมงบกลางมาให้กับแรงงานที่กลับมาคนละเท่าไหร่”