วันที่ 17 มีนาคม 2568 นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน มอบหมายให้ นายสิรภพ ดวงสอดศรี ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงแรงงาน ลงพื้นที่ จ.ยะลา เป็นประธานเปิดงานประเพณีศาลเจ้าแม่ฮุดโจ้ โดยมี นายมาหะมะยากี หะยีมะ นายอำเภอบันนังสตา นายบุญส่ง สุขเกษม ประธานกรรมการศาลเจ้าแม่สุดโจ้วและกำนันตำบตำบล ถ้ำทะลุ อำเภอบันนังสตา จังหวัดยะลา หัวหน้าส่วนราชการ ตลอดถึงประชาชนในพื้นที่ เข้าร่วมจำนวนมาก

โดยงานครั้งนี้ จัดขึ้น เพื่อรักษาขนบธรรมเนียมประเพณีและวัฒนธรรมอันดีงามที่เก่าแก่ สร้างความรัก ความสามัคคี ของคนในชุมชน โดยใช้หลักของความศรัทธาและความเชื่อ ตลอดจน เป็นการสร้างงานสร้างรายได้ ให้กับพี่น้องประชาชนในพื้นที่และใกล้เคียง ส่งเสริมการท่องเที่ยวของชุมชน นอกจากนี้ ยังเป็นการสร้างขวัญกำลังใจ ให้กับพี่น้องประชาชนส่วนราชการ และหน่วยงานต่างๆ
.
กิจกรรมในงาน มีการแสดง ต่างๆ ของนักเรียน และชุมชนในพื้นที่ การร่วมสักการะเจ้าแม่ฮุดโจ้ว ภายในศาลเจ้า ฯ การจุดประทัด การแสดงเชิดสิงโต รวมทั้ง การร่วมรับประทานอาหารเจ ณ โรงเจศาลเจ้าแม่ฮุดโจ้ว
.
สำหรับศาลเจ้าแม่ฮุดโจ้ เป็นสถานที่ยึดเหนี่ยวจิตใจของชาวบ้านในพื้นที่มาเป็นเวลานาน และมีการจัดงานประเพณีขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทุกปี ตามประวัติที่เล่าสืบต่อกันมา เมื่อปีพุทธศักราช 2434 หรือ 134 ปีมาแล้ว อำมาตย์ตรีหลวงจีนคณานุรักษ์ได้อัญเชิญรูปปั้นองค์พระโพธิสัตย์เจ้าแม่กวนอิม เข้ามาประดิษฐานภายในถ้ำพระ หรือศาลเจ้า มีหลวงจีนและแม่ชีจีนประจำอยู่ที่ศาลเจ้า จนถึงปีพุทธศักราช 2536 แม่ชีจีนเสียชีวิตลงด้วยโรคชรา จึงไม่มีผู้ดูแลจัดการในเรื่องต่างๆ ภายในศาลเจ้า ด้วยความเลื่อมใสศรัทธา และความต้องการที่รักษาไว้ซึ่งศาสนสถานที่เก่าแก่คู่บ้าน ผู้นำท้องที่ ผู้นำท้องถิ่น และประชาชนในพื้นที่ จึงได้จัดตั้งคณะกรรมการขึ้น เพื่อร่วมกันดูแล โดยในช่วงเดือนสี่ของทุกๆ ปี ตำบลถ้ำทะลุ ได้จัดให้มีงานสมโภชองค์พระโพธิสัตย์เจ้าแม่กวนอิม มีการทำบุญ ไหว้พระ ขอพร และการถือศีลกินเจ การจัดมหรสพต่างๆ โดยเฉพาะหนังตะลุง จะต้องจัดให้มีการแสดงขึ้นทุกครั้ง โดยใช้งบประมาณที่ได้จากการเรี่ยไรและการร่วมทำบุญ ที่เกิดจากความเลื่อมใสศรัทธา ให้ความเคารพ นับถือ ในองค์พระโพธิสัตย์เจ้าแม่กวนอิม จากประชาชนในทุกพื้นที่
.
ตลอดระยะเวลา 134 ปี แห่งการก่อตั้งถ้ำพระ หรือศาลเจ้าแม่ฮุดโจ้ว แห่งนี้พี่น้องประชาชนให้ความเคารพนับถือ มีความเลื่อมใสศรัทธา เป็นที่ยึดเหนี่ยวทางจิตใจมาโดยตลอด และเป็นศาสนสถาน ที่ควรค่าแห่งการอนุรักษ์ต่อไป