วันที่ 12 มิถุนายน 2567 นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน กล่าวถ้อยแถลงในที่ประชุมใหญ่ประจำปีองค์การแรงงานระหว่างประเทศ (International Labour Conference: ILC) สมัยที่ 112 โดยมี นายสิรภพ ดวงสอดศรี ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงแรงงาน นายไพโรจน์ โชติกเสถียร ปลัดกระทรวงแรงงาน นายเดชา พฤกษ์พัฒนรักษ์ รองปลัดกระทรวงแรงงาน นายสมาสภ์ ปัทมะสุคนธ์ ผู้ตรวจราชการกระทรวงแรงงาน ผู้บริหารระดับสูงกระทรวงแรงงาน และนางสาวชญานันทน์ ฉัตรมาศ อัครราชทูตที่ปรึกษา (ฝ่ายแรงงาน) ร่วมรับฟังด้วย ณ สหประชาชาติ นครเจนีวา สมาพันธรัฐสวิส
นายพิพัฒน์ กล่าวว่า ความร่วมมือผ่านหุ้นส่วนพหุภาคี จะมีบทบาทสำคัญในการส่งเสริมความยุติธรรมทางสังคมตามธรรมนูญของ ILO และสิทธิมนุษยชนสากล โอกาสที่เท่าเทียม การกระจายผลประโยชน์อย่างยุติธรรม และการเปลี่ยนผ่านที่เป็นธรรม จะเป็นปัจจัยสำคัญสู่ความสำเร็จ การมีสัญญาประชาคมใหม่เป็นสิ่งสำคัญในการที่จะบรรเทาผลกระทบจากความท้าทายอันใหญ่หลวงในโลกแห่งการทำงาน ซึ่งมาจากการเปลี่ยนแปลงของโครงสร้างประชากร การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ เทคโนโลยีดิจิทัล และการเปลี่ยนผ่านทางสิ่งแวดล้อม ซึ่งรัฐบาลไทยให้ความสำคัญกับการมีสัญญาประชาคมใหม่ เพื่อรับประกันว่าทุกคนจะต้องมีความรับผิดชอบและความเจริญรุ่งเรืองร่วมกัน โดยในการที่จะบรรลุเป้าหมายดังกล่าว จำเป็นต้องมีธรรมาภิบาลที่ดี เปิดโอกาสให้ประชาชนมีส่วนร่วม สร้างสังคมสำหรับทุกคน ยึดมั่นในหลักกฎหมายและสิทธิมนุษยชน
“ที่ผ่านมา รัฐบาลได้สนับสนุนโครงการสำคัญระดับชาติ “Landbridge” เพื่อเป็นฮับเชื่อมโยงเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ สร้างการจ้างงานและส่งเสริมผลิตภาพในหลายภาคส่วน รวมถึงปรับขึ้นค่าจ้างขั้นต่ำ เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตและความเป็นอยู่ของแรงงานให้สอดคล้องกับการพัฒนาทางเศรษฐกิจ โดยการตัดสินใจมีพื้นฐานจากการปรึกษาหารือไตรภาคี ซึ่งทั้งหมดนี้ เชื่อมโยงถึงการสร้างการมีส่วนร่วมของทุกฝ่าย และส่งเสริมตลาดแรงงาน ซึ่งผมยังได้ยืนยันถึงความพร้อมของประเทศไทยที่จะทำงาน ร่วมกับประชาคมโลก และหุ้นส่วนทางสังคม เพื่อมุ่งไปสู่ความยุติธรรมทางสังคม และงานที่มีคุณค่าสำหรับทุกคนในประเทศไทยด้วย” นายพิพัฒน์ กล่าว
