วันที่ 8 ธันวาคม 2566 เวลา 08.30 น. นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เป็นประธานการประชุมหารือร่วมกับ 18 องค์กรภาคีเครือข่ายผู้ประกอบการอาชีพรักษาความปลอดภัย นำโดย ว่าที่ ร.ต.สิทธิพร บาลทิพย์ นายกสมาคมสภารักษาความปลอดภัย และคณะ ที่ได้เข้าพบเพื่อหารือขอให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงานยับยั้งและทบทวนการเสนอร่างกฎหมายการจ่ายค่าจ้างพนักงานรักษาความปลอดภัยในส่วนที่เกิน 8 ชั่วโมงหรือการจ่ายค่าจ้างในการทำงานในวันหยุด โดยให้ได้รับเท่ากันกับลูกจ้างอื่นทั่วไป เข้าสู่การพิจารณาของคณะรัฐมนตรี (ครม.) ในวันที่ 12 ธันวาคมนี้ โดยมี นายอารี ไกรนรา เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน นายเดชา พฤกษ์พัฒนรักษ์ รองปลัดกระทรวงแรงงาน นางโสภา เกียรตินิรชา ผู้ตรวจราชการกระทรวงแรงงาน รักษาราชการแทน อธิบดีกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน เข้าร่วม ณ ห้องประชุมคณะกรรมการแรงงานสัมพันธ์ กรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน ชั้น 1 อาคารกระทรวงแรงงาน

            นายพิพัฒน์ กล่าวว่า ในวันนี้ผมขอขอบคุณนายกสมาคมสภารักษาความปลอดภัย และคณะ ที่ได้เข้าพบเพื่อหารือให้ทบทวนการเสนอร่างกฎหมายการจ่ายค่าจ้างพนักงานรักษาความปลอดภัยในส่วนที่เกิน 8 ชั่วโมงหรือการจ่ายค่าจ้างในการทำงานในวันหยุด เนื่องจากเกรงว่าจะเกิดผลกระทบต่อการจ้าง รปภ.นั้น
ซึ่งในเรื่องนี้ สิ่งที่ 18 องค์กรภาคีเครือข่ายผู้ประกอบการอาชีพรักษาความปลอดภัยนำเสนอมาในวันนี้ผมรับฟังข้อเสนอทุกประการ แล้วจะนำไปทบทวน โดยเราจะเชิญทั้งทุกฝ่ายมาคุยกัน เพื่อหาข้อยุติให้ได้ ทั้งฝ่ายนายจ้างและลูกจ้าง ซึ่งในเรื่อง รปภ.เรามีความจำเป็นอาจจะต้องหารือในการชดเชยกรณีที่เขาทำงานเกินวันละ 8 ชั่วโมง แน่นอนว่า สภาอุตสาหกรรมฯ สภาหอการค้าไทย ซึ่งเป็นผู้ว่าจ้าง รปภ. การที่เราจะประกาศใช้ ต้องหารือว่าสัญญาของแต่ละบริษัทมีช่วงระยะเวลาเป็นอย่างไร เพื่อหาข้อสรุปที่เป็นกลางให้กับพี่น้องอาชีพ รปภ.ได้รับประโยชน์ นายจ้างอยู่ได้ และกระทรวงแรงงานเองก็สามารถทำงานได้ง่ายขึ้น ซึ่งจะเป็นการตอบสนองนโยบายรัฐบาลที่จะช่วยให้แต่ละอาชีพให้ได้รับค่าจ้างที่สูงขึ้นตามมาตรฐานฝีมือเพื่อให้สูงกว่าค่าจ้างขั้นต่ำและมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นสอดคล้องกับสภาพเศรษฐกิจในปัจจุบัน

            “ผมจะนำเรื่องนี้เข้าหารือกับเลขารัฐมนตรีฯ รักษาการแทนอธิบดีกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน และจะเชิญองค์กรภาคีเครือข่ายผู้ประกอบการอาชีพรักษาความปลอดภัยมาหารือกันอีกครั้งในรูปแบบไตรภาคี ทั้งบริษัท รปภ. ผู้ว่าจ้าง และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้ได้ข้อสรุปโดยเร็ว ” นายพิพัฒน์ กล่าวท้ายสุด

              ภายหลังเสร็จสิ้นจากการหารือ นายพิพัฒน์ฯ ยังได้ไปพบปะให้กำลังใจกับพี่น้อง รปภ.ที่มาร่วมรอฟังผลการหารือในครั้งนี้ โดย รปภ.ต่างพร้อมใจกันส่งเสียงขอบคุณนายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ที่ลงมาพบและรับฟังเรื่องดังกล่าวพร้อมยืนยันที่จะหารือเพื่อให้ได้ข้อสรุปโดยเร็ว ซึ่งสร้างความประทับใจให้กับพี่น้อง รปภ.และ18 องค์กรภาคีเครือข่ายผู้ประกอบการอาชีพรักษาความปลอดภัยเป็นอย่างมาก

            ด้าน ว่าที่ ร.ต.สิทธิพร บาลทิพย์ นายกสมาคมสภารักษาความปลอดภัย กล่าวว่า ในนามสมาคมสภารักษาความปลอดภัย ต้องขอขอบคุณท่านรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน และผู้บริหารกระทรวงแรงงานเป็นอย่างยิ่งที่ท่านให้ความสำคัญกับความเป็นอยู่ของพี่น้องอาชีพ รปภ.และวันนี้ท่านรัฐมนตรีลงมารับฟังปัญหาดังกล่าวด้วยตนเอง ซึ่งท่านได้ให้ความมั่นใจว่าจะหารือกับทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องในรูปแบบไตรภาคี เพื่อให้ได้ข้อสรุปและเกิดประโยชน์กับพี่น้อง รปภ.โดยเร็วต่อไป

——————————–

กองเผยแพร่และประชาสัมพันธ์