รมว. แรงงาน ยืนยันแนวคิดการให้ผู้ต้องขังทดลองทำงานบน เรือประมงเป็นไปด้วยความพร้อมและความสมัครใจ เป็นการเพิ่มทาง เลือกในการมีอาชีพก่อนพ้นโทษ เชื่อช่วยลดปริมาณการกระทำผิด ใหม่หลังพ้นโทษ พร้อมเผยเปิดศูนย์บริการจัดหางานเพื่อคนไทย (Smart Job Center) เป็นของขวัญปีใหม่ผู้ใช้แรงงาน
พลเอก สุรศักดิ์ กาญจนรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน กล่าวถึงแนวคิดการให้ผู้ต้องขังที่จะพ้นโทษมาทำงานบนเรือประมงว่า ต้องชี้แจงก่อนว่าแนวคิดดังกล่าวไม่ได้บังคับผู้ต้องขังแต่จะเน้นความสมัครใจและความพร้อม ล่าสุดได้มีการหารือในรายละเอียดระหว่างอธิบดีกรมการจัดหางาน อธิบดีกรมราชทัณฑ์ และสมาคมประมง ซึ่งสมาคมประมงมีความต้องการในการที่จะนำผู้ต้องขังที่พ้นโทษไปทำงานบนเรือประมง นั่นคือ หากผู้ต้องขังที่ไปทดลองทำงานบนเรือแล้วชอบสามารถทำงานบนเรือประมงได้ เมื่อพ้นโทษผู้ต้องขังก็อาจจะมีอาชีพหลักไปเลย ทั้งนี้มองว่าเมื่อผู้ต้องขังพ้นโทษออกมาแล้วและอยู่ในช่วงรอยต่อที่ยังไม่มีงานทำ ยังหาอาชีพทำไม่ได้ โอกาสที่คนเหล่านั้นจะกลับไปทำผิดอีกครั้งย่อมมีมากขึ้น ดังนั้น เชื่อว่าการให้ทางเลือกในการมีอาชีพก่อนพ้นโทษจะสามารถลดจำนวนการกลับไปทำผิดกฎหมายของผู้พ้นโทษกระทั่งนำไปสู่การต้องโทษจำคุกอีกครั้งได้มาก
“การให้ผู้ต้องขังที่พ้นโทษแล้วไปทำงานในเรือประมงถือเป็นการให้ทางเลือกในการมีอาชีพก่อนพ้นโทษ เพราะจริงๆ อยู่ในเรือนจำเขาก็ต้องฝึกอาชีพอยู่แล้ว นี่จึงเป็นอีกทางเลือกหนึ่งสำหรับผู้ต้องขัง ซึ่งบางคนเขาอาจจะชอบทำงานประเภทนี้ ทั้งนี้จำนวนการรับผู้ต้องขังที่พ้นโทษไปทำงานบนเรือประมงขึ้นอยู่กับความสมัครใจของผู้ต้องขังเป็นสำคัญ รวมทั้งความต้องการในการใช้แรงงานของผู้ประกอบการเรือประมงเป็นหลัก ดีมานด (Demand) และซัพพลาย (Supply) นั่นคือเมื่อมีความต้องการเกิดขึ้นและผู้ต้องขังที่พ้นโทษมีความสมัครใจถึงจะเกิดการจ้างงานในผู้ต้องขังที่พ้นโทษในเรือประมงได้” รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน กล่าว
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน กล่าวต่ออีกว่า ในโอกาสวันปีใหม่ ปี 2558 กระทรวงแรงงานมอบของขวัญให้ผู้ใช้แรงงานโดยมุ่งมั่นดำเนินการเพื่อประชาชน โดยเฉพาะการทำให้คนไทยมีงานทำ โดยการจัดตั้ง “ศูนย์บริการจัดหางานเพื่อคนไทย” (Smart Job Center) ซึ่งจะเปิดให้บริการในวันที่ 19 มกราคม 2558 ทั้งนี้กระทรวงแรงงานมีเจตนารมณ์ที่จะเป็นเอเย่นต์หางานให้กับคนไทยได้มีโอกาสที่จะมีงานทำอย่างเต็มรูปแบบโดยผ่านศูนย์บริการจัดหางานเพื่อคนไทย ซึ่งมีการให้บริการอย่างครบวงจร
“หากคนไทยคนไหนตกงานศูนย์บริการจัดหางานเพื่อคนไทยสามารถเป็นที่พึ่งได้ อย่างน้อยที่สุดก็มีคำแนะนำ ปรึกษา หลักการคือ Matching ตำแหน่งว่างงานจากนายจ้างกับลูกจ้างให้ตรงกัน คนที่อยากเปลี่ยนงานก็สามารถเข้ามารับคำแนะนำได้ หากมาแล้วงานไม่ตรง กรมพัฒนาฝีมือแรงงานก็จะมีการฝึกให้ชำนาญงานมากขึ้นหรือฝึกอาชีพใหม่ให้ด้วย โดยในอนาคตจะมีการกระจายศูนย์ฯ ให้ครอบคลุมไปทั่วประเทศ” รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน กล่าว