นายกรัฐมนตรี แถลงผลงานรัฐบาลรอบ 3 เดือน เผย ใช้กระบวนการยุติธรรมลดปัญหาความขัดแย้ง สร้างวิกฤติเป็นโอกาส สร้างหุ้นส่วนในอาเซียน ให้ไทยเป็นแหล่งอาหาร- พลังงานทดแทน ปรับวิธีการทำงาน ลดความเหลื่อมล้ำในสังคม ยึดประชาชนเป็นศูนย์กลาง สร้างเศรษฐกิจเข้มแข็ง ประเทศชาติมั่นคง ประชาชนมั่งคั่ง ใช้หลักนิติ – รัฐศาสตร์แก้ปัญหาคืนความสุขให้ประชาชน ด้าน ก.แรงงานร่วมกลุ่มความมั่นคง ตอกย้ำผลงาน บริการจัดหางานแบบครบวงจรผ่านศูนย์บริการจัดหางานเพื่อคนไทย แก้ไขปัญหาการค้ามนุษย์ขับเคลื่อนนโยบายสู่การปฏิบัติในระดับท้องถิ่น พร้อมทำงานร่วมกับผู้ประกอบการภาคอุตสาหกรรม ภาคประมงให้ใช้แรงงานต่างด้าวถูกกฎหมาย เป็นระบบและยั่งยืน
พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธานการแถลงข่าวผลงานรัฐบาลรอบ 3 เดือน ณ ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล โดยมี พลเอก สุรศักดิ์ กาญจนรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน นายนคร ศิลปอาชา ปลัดกระทรวงแรงงาน นายอารักษ์ พรหมณี รองปลัดกระทรวงแรงงานและโฆษกกระทรวงแรงงาน เข้าร่วมการแถลงข่าวดังกล่าว โดยนายกรัฐมนตรีกล่าวว่า วันนี้รัฐบาลทำงาน 3 ระยะ คือ ระยะเร่งด่วน ระยะปานกลาง และระยะยาวอย่างยั่งยืน ซึ่งขณะนี้อยู่ในช่วงที่ 2 เป็นการปฏิรูปประเทศเพื่อสร้างความเข้มแข็งของประเทศชาติ เราต้องแก้ไขปัญหาของประเทศเราให้ได้ วันนี้เราต้องใช้วิกฤติเป็นโอกาสเพื่อให้บ้านเมืองเข้มแข็ง ที่ใดมีความขัดแย้งเห็นต่างเราต้องแก้ไขโดยลดปัญหาที่มีให้ได้ ซึ่งให้ศาล องค์กรอิสระได้ทำหน้าที่ในกระบวนการยุติธรรม คดีทุกคดีต้องมีความชัดเจนภายใน 3 เดือน แม้จะเป็นสิ่งที่ยากแต่ต้องบังคับใช้กฎหมาย เพราะถ้าสร้างการยอมรับซึ่งกันและกันในเรื่องการทำงานแล้ว การสร้างความปรองดองก็จะเกิดขึ้นได้
นายกรัฐมนตรี กล่าวต่อว่า ส่วนการสร้างความสัมพันธ์กับต่างประเทศ ซึ่งต้องคาบเกี่ยวกับทุกด้านทุกประเทศในโลกถือเป็นหุ้นส่วน วันนี้เราไม่ได้มองแต่ประเทศไทย แต่ทุกประเทศจะได้รับผลประโยชน์ที่ทัดเทียมกัน การทำงานของรัฐบาลเราต้องทำทุกอย่างให้ชัดเจนขึ้นโดยทำของเดิมที่มีอยู่ให้ได้ก่อน โดยการปรับวิธีการ กระบวนการ เพื่อลดความเหลื่อมล้ำในสังคม ความยากจน อาชีพ รายได้ ซึ่งต้องสร้างเศรษฐกิจให้เข้มแข็ง เพื่อประเทศชาติมั่นคง ประชาชนมั่งคั่ง ขณะนี้กำลังเร่งดำเนินการจัดตั้งเขตเศรษฐกิจพิเศษขึ้นมาใน 5 พื้นที่ และเพิ่มเติมพื้นที่ จ.หนองคายขึ้นมา เพื่อส่งเสริมให้เกิดเมือง มีการค้ากับชุมชน เกิดการต่อรองราคาสินค้าได้ นอกจากนี้จะต้องเร่งเสริมความพร้อมให้ไทยเป็นแหล่งอาหารโลก แหล่งพลังงานทดแทน โดยการสร้างห่วงโซ่การพัฒนาให้ประเทศสามารถเดินไปข้างหน้าได้
“การทำงานวันนี้ปัญหาอยู่ที่คน อยู่ที่การบริหารราชการแผ่นดิน ทุกคนต้องช่วยกันเสียสละ แบ่งปันเคารพในศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ ซึ่งตัองยึดประชาชนเป็นศูนย์กลางว่าประชาชนอยากได้อะไร ขาดอะไร นำปัญหาเป็นโจทย์ในการแก้ไข ทำอย่างไรให้ประชาชนมีความสุข แต่ต้องรักษาผลประโยชน์ของชาติ โดยการบูรณาการอย่างใกล้ชิดกับแต่ละส่วนราชการ ซึ่งต้องจัดระเบียบข้าราชการ ทำอย่างไรให้เกิดการบูรณาการระหว่างส่วนกลาง ส่วนภูมิภาค และส่วนท้องถิ่น ใช้หลักนิติศาสตร์และรัฐศาสตร์ในการแก้ไขปัญหา ช่วยกันคืนความสุขให้ประเทศชาติ “นายกรัฐมนตรี กล่าว
ส่วนการแถลงผลงานของกลุ่มความมั่นคง โดย พลเอก อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ผู้แทนรองนายกรัฐมนตรีด้านความมั่นคง ซึ่งผลการดำเนินงานของกระทรวงแรงงานที่ถูกนำเสนอมีอยู่ 3 ประเด็น คือ การจัดตั้งศูนย์บริการจัดหางานเพื่อคนไทย เพื่อให้บริการจัดหางานแบบครบวงจรแก่ประชาชน การแก้ไขปัญหาการค้ามนุษย์ทั้งระดับนโยบายที่ได้ขับเคลื่อนและสั่งการไปสู่การปฏิบัติระดับอำเภอ ตำบล หมู่บ้าน ซึ่งสามารถนำไปใช้ในหลายเรื่อง เช่น การค้าประเวณี การขอทาน การอพยพย้ายถิ่นฐาน สิ่งสำคัญที่สุดคือ ขอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจมีความตั้งใจในการแก้ไขปัญหาดังกล่าว และประเด็นด้านการจัดระเบียบแรงงานต่างด้าว ซึ่งถ้าเราสามารถควบคุมแรงงานได้ โดยการพูดคุยกับผู้ประกอบการภาคอุตสาหกรรม ภาคประมงให้เขาสามารถใช้แรงงานต่างด้าวที่ขึ้นทะเบียนถูกต้องตามกฎหมายก็จะช่วยแก้ไขปัญหาการค้ามนุษย์ได้
—————————–
กลุ่มงานเผยแพร่ประชาสัมพันธ์/
ชนินทร เพ็ชรทับ – ข่าว/
สมภพ ศีลบุตร – ภาพ/
25 ธันวาคม 2557