พลเอก ศิริชัย ดิษฐกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ได้เดินทางไปราชการที่ประเทศญี่ปุ่น ระหว่างวันที่ ๑๓-๑๖ มกราคม ๒๕๕๙ เพื่อเจรจาความร่วมมือในระดับทวิภาคีกับ H.E. Mr. Yasuhisa Shiozaki รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข แรงงาน และสวัสดิการญี่ปุ่น ในวันที่ ๑๔ มกราคม ๒๕๕๙ โดยมุ่งสานต่อภายใต้ความร่วมมือด้านแรงงานและการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ของรัฐบาล ตามที่นายกรัฐมนตรีของทั้งสองประเทศได้มีการพบปะหารือ เมื่อวันที่ ๒๐ พฤศจิกายน ๒๕๕๘ ที่กรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย 
            รัฐมนตรีทั้งสองฝ่ายได้บรรลุข้อตกลงความร่วมมือในการดำเนินงานที่ครอบคลุมภารกิจด้านการจ้างงาน การพัฒนาฝีมือแรงงาน การคุ้มครองแรงงาน การสร้างการรับรู้ให้กับนายจ้างทั้งในประเทศไทยและประเทศญี่ปุ่น รวมทั้งการแลกเปลี่ยนประสบการณ์กับประเทศญี่ปุ่นในการเตรียมความพร้อมเพื่อเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุของประเทศ การส่งเสริมการประกอบอาชีพให้ผู้สูงอายุด้วยการปรับปรุงกลไกการจ้างงานในตลาดแรงงาน ผ่านความร่วมมือกับสถานเอกอัครราชทูตญี่ปุ่นประจำประเทศไทย หอการค้าญี่ปุ่น-กรุงเทพฯ และสำนักงานแรงงานในประเทศญี่ปุ่น 
            รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงานได้แสดงความชื่นชมที่ญี่ปุ่นประสบผลสำเร็จในการฟื้นฟู พัฒนาประเทศที่ได้รับผลกระทบจากวิกฤตหลายด้าน ทั้งภัยพิบัติทางธรรมชาติและเศรษฐกิจ ทำให้ญี่ปุ่นมีความเข้มแข็งเป็นแบบอย่างให้กับประเทศอื่น อีกทั้งยังสามารถขยายความร่วมมือช่วยเหลือไปยังประเทศต่าง ๆ ได้
            รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขแรงงาน และสวัสดิการญี่ปุ่นได้กล่าวขอบคุณที่ชื่นชมและเน้นย้ำว่าไม่ควรมองแต่ความสำเร็จของญี่ปุ่นเพียงด้านเดียว ควรนำประสบการณ์ความผิดพลาดจากญี่ปุ่นมาเป็นบทเรียน เพื่อนำไปสู่ความสำเร็จในอนาคต นอกจากนั้น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงานได้แสดงเจตจำนงและความมุ่งมั่นที่จะพัฒนาการดำเนินงานด้านแรงงานของไทยให้ก้าวไปสู่การเป็นศูนย์กลางความร่วมมือในอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขงหรือกลุ่มประเทศ CLMV เนื่องจากประเทศไทยมีสถานะเป็นทั้งประเทศผู้ส่งและประเทศผู้รับแรงงาน ซึ่งต้องอาศัยความร่วมมือจากญี่ปุ่นเพื่อสนับสนุนการดำเนินงาน อันจะเป็นประโยชน์ร่วมกันแก่ทุกฝ่าย
            ต่อจากนั้น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงานได้พบหารือกับ Mr. Kyoei Yanakisawa ประธานองค์กร IM Japan และคณะผู้บริหาร เพื่อแลกเปลี่ยนความคิดเห็นและหารือเรื่องการฝึกปฏิบัติงานเทคนิคของผู้ฝึกงานคนไทยในประเทศญี่ปุ่น และการเตรียมความพร้อมด้านแรงงานเพื่อรองรับการแก้ไขกฎหมายของรัฐบาลญี่ปุ่น  รวมถึงการส่งเสริมให้ผู้ฝึกปฏิบัติงานได้นำความรู้มาใช้ประโยชน์ในการทำงานให้มากขึ้น  
            รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงานได้พบกับ Mr. Sadaki Tanaka ประธานบริษัท Bestex Kyoei Co.,Ltd. จังหวัด Saitama และเยี่ยมผู้ฝึกงานคนไทย โดยได้แลกเปลี่ยนความคิดเห็นด้านแรงงานกับคณะผู้บริหาร เพื่อให้นายจ้างมั่นใจสถานการณ์ว่าประเทศไทยมีความพร้อมในการปรับปรุงระเบียบกฎหมาย เพื่ออำนวยความสะดวกแก่นักลงทุนต่างชาติที่เข้ามาลงทุนในประเทศ และพร้อมเดินหน้าเป็นศูนย์กลางด้านแรงงานในอนุภูมิภาคลุ่มน้ำโขงหรือกลุ่มประเทศ CLMV
             บริษัทดังกล่าวประกอบกิจการผลิตชิ้นส่วนยานยนต์จำหน่ายบริษัทฮอนด้ามอเตอร์ในหลายสาขา ทั้งในประเทศญี่ปุ่น ไทย อินเดีย จีน และทวีปอเมริกาเหนือ มีโรงงานผลิตในประเทศญี่ปุ่น ๔ แห่ง โรงงานในต่างประเทศ ๒ แห่ง ที่ประเทศไทยและอินเดีย รับผู้ฝึกปฏิบัติงานด้านเทคนิคคนไทยในประเทศญี่ปุ่น รวม ๕๐ คน อยู่ที่จังหวัด Saitama ๒๕ คน และจังหวัด Mie ๒๕ คน ผ่านองค์กรส่ง บจง. ไทย เวิร์คเกอร์ เอ็นเทอร์ไพรส์ จำกัด องค์กรรับ Japan Total Information Co-op สำหรับบริษัท Bestex (Thailand)   Co., Ltd. ก่อตั้งที่นิคมโรจนะ จังหวัดอยุธยา ในปี ๒๕๔๗ จ้างพนักงานคนไทย ๖๓๕ คน 
             ในการหารือกับคณะผู้บริหารของบริษัทดังกล่าว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงานได้ย้ำประเด็นฝากให้ดูแลผู้ฝึกงานคนไทย และเยี่ยมให้กำลังใจผู้ฝึกงานคนไทยพร้อมทั้งกล่าวให้โอวาทแรงงานไทยให้มีความอดทน  มีระเบียบวินัย ความรับผิดชอบในการฝึกปฏิบัติงาน นำความรู้ความสามารถและประสบการณ์กลับมาพัฒนาประเทศให้สามารถแข่งขันกับแรงงานในอาเซียนที่ได้เปิดศักราชเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนมาตั้งแต่ต้นปี ๒๕๕๙ 

กลุ่มงานประสานความร่วมมือระหว่างประเทศ
สำนักประสานความร่วมมือระหว่างประเทศ
๑๘ มกราคม ๒๕๕๙