วันที่ 10 มกราคม 2567 นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เป็นประธานการประชุมมอบนโยบายแก่ข้าราชการกระทรวงแรงงาน และแถลงข่าวการผลิตกำลังคนที่มีคุณภาพ พร้อมขยายผลความร่วมมือในการ Up Skill รองรับการเติบโตของอุตสาหกรรมในอนาคต และสร้างจิตสำนึกความเป็นไทย โดยมี นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน นายไพโรจน์ โชติกเสถียร ปลัดกระทรวงแรงงาน พร้อมด้วย ผู้บริหารระดับสูง ข้าราชการกระทรวงแรงงาน ร่วมให้การต้อนรับ ณ ห้องประชุมกระทรวงแรงงาน ชั้น 5 อาคารกระทรวงแรงงาน
นายอนุทิน กล่าวว่า ในวันนี้ผมและคณะ ได้มารับฟังภารกิจ และผลการดำเนินงานสำคัญของกระทรวงแรงงาน พร้อมทั้งได้มอบนโยบายการดำเนินงานแก่ข้าราชการกระทรวงแรงงาน โดยให้มุ่งเน้นการบูรณาการการทำงานร่วมกันระหว่าง 4 กระทรวง และหนึ่งองค์การมหาชน คือ กระทรวงมหาดไทย ศึกษาธิการ การอุดมศึกษาฯ แรงงาน และสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ ที่ผมได้รับมอบหมายให้กำกับดูแล ซึ่งเป็นหน่วยงานหลักในการพัฒนากำลังคนเพื่อนำไปสู่การขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ ให้แรงงานไทยมีคุณภาพ รองรับการเติบโตของอุตสาหกรรมในอนาคต การแก้ไขปัญหาการขาดแคลนแรงงานอย่างยั่งยืน
นายอนุทิน กล่าวต่อว่า ผมได้มอบหมายให้กระทรวงแรงงาน วางแผนพัฒนาทักษะฝีมือแรงงานให้ตรงตามความต้องการของภาคอุตสาหกรรมในพื้นที่ต่างๆ โดยการ Up-skill และ Re skill ให้กับกลุ่มนักเรียน นักศึกษา และผู้ด้อยโอกาส ให้มีความรู้ ทักษะในการประกอบอาชีพ สอดคล้องกับตลาดใหม่ ส่งเสริมความยืดหยุ่นในการทำงาน (Flexible Hours) สนับสนุนการเพิ่มประชากร และสวัสดิการการทำงานอาชีพใหม่พร้อมโอกาสให้ทำงานในช่วงวัยเรียน เพื่อเป็นการสร้างรายได้ เพิ่มประสบการณ์ ให้มีความพร้อมในการทำงานหลังเรียนจบ ตลอดจน ร่วมหารือกับสถาบันอาชีวศึกษาและสถาบันการศึกษาในระดับอุดมศึกษาในการขับเคลื่อนนโยบายธนาคารสะสมหน่วยกิต (CREDIT BANK) เพื่อให้ผู้ที่ผ่านการพัฒนาฝีมือแรงงาน สามารถเทียบหน่วยกิตกับสถาบันการศึกษาได้ เป็นโอกาสให้แรงงานได้รับวุฒิการศึกษาในระดับที่สูงขึ้น เพื่อมุ่งสู่เป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDGs) รวมถึงการพัฒนาเศรษฐกิจโดยคำนึงถึงทรัพยากรและสิ่งแวดล้อม (BCG Model)
“พี่น้องแรงงานไทยต้องหลุดพ้นจากค่าแรงขั้นต่ำ มีรายได้ตามทักษะฝีมือ และได้รับความคุ้มครองตามหลักประกันสังคม มีศักยภาพของที่ตอบสนองความต้องการของตลาดแรงงานทั้งในประเทศและต่างประเทศ” นายอนุทิน กล่าว
ด้าน นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน กล่าวว่า ผมพร้อมด้วยผู้บริหาร กระทรวงแรงงานมีความยินดีอย่างยิ่งในวันนี้ ผมเองได้กำหนดนโยบายการดำเนินงานให้แก่กระทรวงแรงงานใน 3 ด้าน คือ 1) ด้านทักษะดี ด้วยการพัฒนาทักษะฝีมือแรงงานชั้นสูง Up skill for More Earn รองรับค่าจ้างสูงกว่าค่าจ้างขั้นต่ำ 2) ด้านมีงานทำ บริการแรงงานต่างด้าวแบบเบ็ดเสร็จ (One Stop Service) และเพิ่มการจัดส่งแรงงานไทยไปทำงานต่างประเทศ 100,000 อัตรา และ 3) ด้านหลักประกันสังคมเด่น ให้บริการพี่น้องแรงงาน สะดวก รวดเร็วผ่านระบบ E-Service และพัฒนากฎหมายให้มีความเหมาะสมกับบริบทเศรษฐกิจและสังคมของประเทศ
“กระทรวงแรงงานจะบูรณาการความร่วมมือระหว่าง 4 กระทรวง ในการผลิตกำลังคนให้เชื่อมโยงสอดรับกับยุทธศาสตร์ชาติด้านการพัฒนาและเสริมสร้างศักยภาพทรัพยากรมนุษย์ โดยมุ่งเน้นการสร้างโอกาสและส่งเสริมการมีงานทำให้กับประชาชนในทุกช่วงวัย รวมถึงการพัฒนาศักยภาพของแรงงานไทยให้มีทักษะสูง เพื่อการมีรายได้ที่เพิ่มมากยิ่งขึ้น พร้อมจัดหาแรงงานคุณภาพรองรับอุตสาหกรรมการเติบโตของเศรษฐกิจ และคุ้มครองดูแลแรงงานให้มีคุณภาพชีวิตที่ดี เพื่อให้การบริหารจัดการกำลังแรงงานบรรลุเป้าหมายสูงสุด ซึ่งทั้งหมดนี้จะนำมาสู่ความยั่งยืนของเศรษฐกิจทั้งในระดับภูมิภาคและระดับประเทศต่อไป” นายพิพัฒน์ กล่าว
On January 10, 2024, the Deputy Prime Minister and Minister of Interior, Mr. Anutin Charnvirakul, chaired the meeting to present policies to the Ministry of Labour’s officials and give a press release on the production of quality manpower, ready to expand cooperation in upskilling to support future industry growth and to create awareness of Thainess. The Labour Minister, Mr. Phiphat Ratchakitprakarn, the Permanent Secretary of Labour, Mr. Phairoj Chotikasatian, and the Ministry of Labour’s executives and civil servants joined in giving a welcome at the Ministry of Labour’s conference room, 5th floor, Ministry of Labour.
Mr. Anutin said that today, he and his team came to listen to the Ministry of Labour’s mission and key performance results. He also delivered operational policies to the Ministry of Labour’s civil servants, focusing on the integration and collaboration between four ministries and one public organization, namely the Ministry of Interior, the Ministry of Education, the Ministry of Higher Education, the Ministry of Labour, and Professional Qualification Institute, which have been assigned as key agencies in developing manpower to drive the country’s economy, ensuring a quality Thai workforce that supports future industry growth, and solving labour shortage issues sustainably.
Mr. Anutin continued that he assigned the Ministry of Labour to plan to develop the workforce’s skills to meet the needs of various industrial sectors by upskilling and reskilling students and underprivileged people to have knowledge and skills for occupations in line with the new market. He also encouraged the promotion of flexible hours, supporting population growth, and new working benefits, with opportunities to work during school age in order to generate income and gain experiences, ready to work after graduation. He advised joining in discussions with vocational education and higher education institutions to drive the credit bank policy so that those who pass the skill development programs gain credentials equivalent to those of educational institutions. It is an opportunity for workers to obtain higher educational qualifications to aim for the Sustainable Development Goals (SDGs), including economic development, taking into account resources and the environment (BCG Model).
“Thai workers must escape from the minimum wage and earn an income according to their skill set and receive protection that is aligned to social security principles. Thai workers should have the potential to meet the needs of the labour market both domestically and abroad,” said Mr. Anutin.
The Labour Minister, Mr. Phiphat Ratchakitprakarn, said that he and the Ministry of Labour’s executives were very pleased today. He said that he had set the Ministry of Labour’s operational policies in three areas: 1) On quality skills by developing workers through Up Skill for More Earn, supporting wages that are higher than the minimum wage. 2) On employment through the One Stop Service for foreign workers and increasing the deployment of Thai workers to work abroad by 100,000 positions, and 3) On outstanding social security principles by providing services to workers conveniently and quickly through the E-Service systems and developing laws that are appropriate for the country’s economic and social context.
“The Ministry of Labour will work with the four ministries in producing manpower in line with the national strategy for developing and strengthening human resource potential. It focuses on creating opportunities and promoting employment for people of all ages, including developing Thai workers’ potential to have better skills in order to earn a higher income. It also aims to develop a quality workforce to support industrial growth for the economy and protect and care for workers to have a good quality of life to achieve the highest goals of workforce management., all of which will lead to the sustainability of the economy both regionally and nationally,” said Mr. Phiphat.
————————————————
กองเผยแพร่และประชาสัมพันธ์/Division of Public Relations
10 มกราคม 2567/10 January 2024
