เมื่อวันที่ 21 เมษายน 2559 เวลา 14.00 น. นายเอนโน่ โดรเฟนิก (Mr.Enno Drofenik) เอกอัครราชทูตออสเตรียประจำประเทศไทยเข้าเยี่ยมคารวะ พล.อ.ศิริชัย ดิษฐกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ณ ห้องรับรองรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ชั้น 6 โดยมีเลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน และผู้บริหารกระทรวงแรงงาน ประกอบด้วยหม่อมหลวงปุณฑริก สมิติ ปลัดกระทรวงแรงงาน และนายวิชัย คงรัตนชาติ รองอธิบดีกรมพัฒนาฝีมือแรงงานเข้าร่วมการสนทนาด้วย
เอกอัครราชทูตออสเตรียประจำประเทศไทยได้กล่าวขอบคุณรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงานที่ให้เข้าพบในวันนี้ และกล่าวว่าออสเตรียและไทยมีความร่วมมือด้านการพัฒนาทักษะฝีมือแรงงานมาตลอดหลายปี ตัวอย่างเช่น การจัดตั้งวิทยาลัยเทคนิคสัตหีบ (Thai-Austria Technical Colleague) ในปี ๑๙๗๐ การเข้าพบในครั้งนี้เพื่อหารือขยายความร่วมมือด้านการพัฒนาฝีมือแรงงานกับกระทรวงแรงงาน
เอกอัครราชทูตออสเตรียประจำประเทศไทยได้กล่าวเพิ่มเติมว่า สืบเนื่องจากทางฝ่ายออสเตรียมีกำหนดจัดการหารือ High-Level Dialogue on Vocational Education ในวันที่ 2 มิถุนายน 2559 โดยมีรองประธานกรรมการหอการค้า และผู้แทนจากสถานประกอบการของออสเตรียเข้าร่วมการหารือ ในการนี้จึงขอเชิญรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงานเข้าร่วมการหารือในครั้งนี้ ซึ่งการหารือในครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์1) ในการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ประสบการณ์ในเรื่องการจัดการอาชีวศึกษาแบบทวิภาคี (Dual Vocational training) ซึ่งภายใต้ระบบนี้ นักศึกษาจะใช้เวลา 80% ในสถานที่ฝึกงาน (สถานประกอบการ) และใช้เวลา 20% ในการเรียนภาคทฤษฎี และจากประสบการณ์ของออสเตรีย ภายใต้ระบบนี้ 95% ของผู้จบการศึกษาจะมีงานทำทันที และ 2) การแลกเปลี่ยนเรียนรู้ในเรื่องการอาชีวศึกษาขั้นสูง (Technical Colleague) เช่นเดียวกับวิทยาลัยเทคนิคสัตหีบ ซึ่งจากประสบการณ์ของออสเตรีย 50% ของนักศึกษาที่จบการศึกษาในระบบทวิภาคีจะเข้าเรียนต่อในวิทยาลัยอาชีวศึกษานี้
ท้ายสุด รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงานกล่าวขอบคุณเอกอัครราชทูตออสเตรียประจำประเทศไทยที่ได้มาพบและหารือในวันนี้ และหวังว่าจะมีความร่วมมือระหว่างกันเพิ่มมากขึ้นต่อไปในอนาคต ทั้งนี้ ได้ตอบรับคำเชิญเข้าร่วมการหารือ High-level Dialogue on Vocational Education ดังกล่าว และได้มอบหมายให้สำนักประสานความร่วมมือระหว่างประเทศประสานงานกับฝ่ายออสเตรีย ในการเตรียมการและหารือในรายละเอียดต่อไป
แหล่งข่าว สำนักประสานความร่วมมือระหว่างประเทศ
ณ วันที่ 25 เมษายน 2559