รองนายกฯ เปิดป้ายศูนย์เอื้ออาทรสมุทรสาคร 3 กระทรวง รง.-พม.-มท. ลงพื้นที่ดูแลความพร้อมของการให้บริการช่วยเหลือแรงงานต่างด้าว พร้อมตรวจเยี่ยมความเป็นอยู่ของแรงงานต่างด้าวในพื้นที่
วันนี้ (9 มิ.ย.60) พลเอก ศิริชัย ดิษฐกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ได้ลงพื้นที่จังหวัดสมุทรสาคร เพื่อเข้าร่วมพิธีเปิดป้ายศูนย์เอื้ออาทรสมุทรสาคร (ท่าจีน) โดยมี พลเรือเอก ณรงค์ พิพัฒนาศัย รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานในพิธี พร้อมด้วย พลตำรวจเอก อดุลย์ แสงสิงแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ และนายสุธี มากบุญ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย
จากนั้นได้เข้าเยี่ยมชมนิทรรศการและการจัดบริการต่างๆ ของหน่วยงานจากกระทรวงแรงงานและหน่วยงานอื่นๆ ภายในศูนย์ฯ อาทิ ห้องให้บริการตรวจสุขภาพ คัดกรองโรค จากโรงพยาบาลสมุทรสาคร บริการตรวจสอบสิทธิออนไลน์ จากสำนักงานประกันสังคมจังหวัด บริการรับคำร้อง ประสานการช่วยเหลือแรงงานต่างด้าว จากจัดหางานจังหวัด บริการให้คำปรึกษาด้านสวัสดิการแรงงาน จากกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน และบริการให้คำแนะนำปรึกษาด้านครอบครัว เด็ก สตรี จากสำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัด รวมทั้งเข้าเยี่ยมชมห้องพักแรงงานต่างด้าว ณ บ้านเอื้ออาทรสมุทรสาคร อาคาร ๘ เพื่อดูแลคุณภาพชีวิตของแรงงานต่างด้าว พร้อมให้ความช่วยเหลือในด้านมนุษยธรรม นอกจากนี้ ยังได้เข้าเยี่ยมชมศูนย์การเรียนโรงเรียนอันนาลัย ซึ่งเป็นศูนย์ที่ให้การศึกษาแก่บุตรของกลุ่มแรงงานต่างด้าวที่เข้ามาทำงานในเขตจังหวัดสมุทรสาครอีกด้วย
ภายหลังจากการเยี่ยมชมศูนย์เอื้ออาทรสมุทรสาคร (ท่าจีน) และบ้านเอื้ออาทรฯ เรียบร้อยแล้ว พลเอก ศิริชัย ได้กล่าวว่า การจัดระเบียบแรงงานต่างด้าวเป็นนโยบายของรัฐบาลที่จะดำเนินการจัดระเบียบแรงงานต่างด้าวทั้งระบบ ในด้านความมั่นคง เศรษฐกิจ สังคม โดยมีศูนย์แรกรับเข้าทำงานและส่งกลับแรงงานต่างด้าว รวมถึงศูนย์ร่วมบริการช่วยเหลือแรงงานต่างด้าว ช่วยคัดกรองแรงงานต่างด้าวที่ผ่านเข้ามาทางชายแดนทั้ง 3 สัญชาติในขั้นต้น เกี่ยวกับเอกสารสัญญาจ้างอย่างถูกต้องตามกฎหมาย และการประสานกับสถานประกอบการต่างๆ ในการรับแรงงานต่างด้าวเข้าทำงาน สำหรับด้านที่พักอาศัยนั้น ได้รับความร่วมมือจากกระทรวงมหาดไทยและการเคหะแห่งชาติ ซึ่งเป็นหลักประกันได้ว่า แรงงานต่างด้าวที่เข้ามาอาศัยอย่างถูกต้องตามกฎหมายนั้นจะได้รับการดูแลความเป็นอยู่และมีสวัสดิการที่ดี
จังหวัดสมุทรสาครถือเป็นต้นแบบของการจัดโซนนิ่งแรงงานต่างด้าว ซึ่งปัจจุบันได้พักอาศัยอยู่ในอาคารของการเคหะแห่งชาติ และในอนาคตอาจจะให้ภาคเอกชนเข้ามาร่วมบริหารจัดการลงทุนทั้งที่ดินและอาคารที่พักอาศัยให้ได้มาตรฐานตามที่การเคหะแห่งชาติกำหนด รวมถึงกำหนดเขตที่พักอาศัยที่เหมาะสมสำหรับแรงงานต่างด้าวให้ชัดเจน จากนั้นจะขยายผลไปในพื้นที่ที่มีแรงงานต่างด้าวเป็นจำนวนมากอีก 12 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดระนอง ปทุมธานี ชลบุรี สมุทรปราการ สุราษฎร์ธานี เชียงใหม่ นนทบุรี นครปฐม ระยอง ภูเก็ต สงขลา และจังหวัดตากต่อไป พลเอก ศิริชัย กล่าวในท้ายสุด
+++++++++++++++++++
กลุ่มงานโฆษกและการข่าว / กองเผยแพร่และประชาสัมพันธ์ / ดาวนภา เนาวรังษี – ข่าว / 9 มิถุนายน 2560