พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เปิดเผยภายหลังเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการนโยบายการจัดการปัญหาแรงงานต่างด้าวและการค้ามนุษย์ด้านแรงงาน (กนร.) ครั้งที่ 2/2558  ณ ห้องประชุม ศ.นิคม จันทรวิทุร กระทรวงแรงงาน โดยมี พลเอก สุรศักดิ์ กาญจนรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงานร่วมประชุมด้วย ว่า 

ที่ประชุมได้พิจารณาเห็นชอบ เรื่องการให้ผู้ว่าราชการจังหวัดบริหารจัดการแรงงานต่างด้าวในเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษและพื้นที่ชายแดน ในการอนุญาตทำงานแบบไป-กลับ หรือตามฤดูกาลของแรงงานต่างด้าวที่เดินทางเข้า-ออกตามแนวชายแดนทั้งผ่านด่านถาวรและด่านชั่วคราว รวมถึงการพิจารณาสั่งการในลักษณะบูรณาการงานทุกด้านที่เกี่ยวข้อง เช่น ปลัดจังหวัด หรือหน่วยงานด้านความความมั่นคง อาทิทหาร ตำรวจ หรือตรวจคนเข้าเมือง  และการกำหนดแนวทาง รูปแบบ วิธีการดำเนินการ กำหนดจำนวนแรงงานต่างด้าวที่จะอนุญาตให้เข้ามาทำงานให้สอดคล้องกับลักษณะพื้นที่และความจำเป็นของแต่ละพื้นที่ได้ด้วย  ซึ่งจะเป็นการมอบอำนาจจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ให้ผู้ว่าราชการจังหวัดดำเนินการในพื้นที่เขตเศรษฐกิจพิเศษและชายแดนได้ แต่ทั้งนี้ จะเริ่มดำเนินการได้เมื่อกระทรวงการต่างประเทศได้เจรจาตกลงในรายละเอียดกับประเทศต้นทาง คือ ลาว เมียนมา และกัมพูชา เสร็จเรียบร้อยแล้ว ซึ่งน่าจะไม่เกินวันที่ 18 กรกฎาคม 2558 

            สำหรับมาตรการภายหลังครบกำหนดให้แรงงานต่างด้าวมารายงานตัวขอรับบัตรใหม่เมื่อวันที่ 30 มิถุนายน 2558  กนร. ได้กำหนดให้นายจ้างนำแรงงานต่างด้าวทั้ง 3 สัญชาติ คือ ลาว เมียนมา และกัมพูชา ไปตรวจสัญชาติให้เสร็จภายใน 31 มีนาคม 2559 เมื่อแรงงานต่างด้าวผ่านการตรวจสัญชาติแล้วจะได้รับอนุญาตให้อยู่ทำงานในประเทศไทยได้อีก 2 ปี (ถึง 31 มีนาคม 2561)  หากพ้นกำหนด 31 มีนาคม 2559 แล้วยังไม่ดำเนินการตรวจสัญชาติให้เสร็จสิ้นก็จะไม่ได้รับอนุญาตให้อยู่ในประเทศไทย เมื่อจับกุมได้จะส่งกลับประเทศ ทั้งนี้ จะได้กำชับให้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินคดีตามกฎหมายกับนายจ้างที่จ้างแรงงานต่างด้าวผิดกฎหมาย  และแรงงานต่างด้าวที่ลักลอบทำงานโดยไม่ได้รับอนุญาต รวมถึงผู้นำพา ผู้ให้ที่พักพิง อย่างเคร่งครัดต่อไป

 

—————————–

 

กระทรวงแรงงาน “บริการด้วยใจ  เพื่อคนไทยมีงานทำ”